'นพ.สรณ'ยื่นประธานวุฒิสภา เบรก'กมธ.ไอซีที'บิดเบือนกฎหมาย

'นพ.สรณ'ยื่นประธานวุฒิสภา เบรก'กมธ.ไอซีที'บิดเบือนกฎหมาย

วันพุธ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 22.18 น.

ประธานกสทช.ซัดรายงานคณะกรรมาธิการไอซีที วุฒิสภา บิดเบือนทั้งกฎหมายและข้อเท็จจริง ส่อใช้อำนาจหน้าที่ไม่สุจริต ทำหนังสือด่วนถึงประธานวุฒิสภา เตือนอย่าหลงเชื่อ อาจก่อความเสียหายร้ายแรง ย้ำคุณสมบัติครบถ้วน แจกแจงทุกประเด็น ไม่ได้เป็นกรรมการเอกชนและมหาวิทยาลัย

วันที่ 12 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. ได้ ทำหนังสือถึง ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร พิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2567  เพื่อขอให้พิจารณายับยั้งและตรวจสอบการใช้อำนาจของ ประธานกรรมาธิการและคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา โดยยืนยันว่า คณะกรรมาธิการฯไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคล มีลักษะปฏิบัติหน้าที่เสมือนเป็นศาล หรือเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปด้วยอคติและไม่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม


“คณะกรรมาธิการฯ สรุปเอาเองโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ แล้วเสนอให้ประธานวุฒิสภา นำกราบเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อให้มีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และจะเป็นการนำความเท็จขึ้นกราบบังคมทูล อันจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงจนมิอาจจะแก้ไขได้”

ประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องจาก ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ อดีตรองเลขาธิการกสทช. และเคยพลาดหวังตำแหน่งรักษาการเลขาธิการกสทช. ได้ทำหนังสือขอให้วุฒิสภาตรวจสอบคุณสมบัติ ประธานกสทช. ว่าขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ ยังเคยได้รับการสนับสนุนโดย 4 กสทช. ซึ่งไม่ลงรอยในการบริหารกับ ศาสตราจารย์คลินิกนพ.สรณ และต่อมามีการสนับสนุนจากเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค

กระทั่งคณะกรรมาธิการฯ ทำหนังสือ”รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบคุณสมบัติประธานกสทช.” ไปถึงประธานวุฒิสภา เมื่อ 4 มิถุนายน 2567 อ้างว่า คณะกรรมาธิการฯได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า ศาสตราจารย์คลินิกนพ.สรณ มีลักษณะต้องห้ามจริง อาทิ การเป็นพนักงานรพ.รามาธิบดี และเป็นกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ ฯลฯ

ประธานกสทช. ยืนยันว่า เมื่อพิจารณาข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ.2562 ข้อ 78 วรรคสอง (17) ที่กำหนดอำนาจและหน้าที่คณะกรรมาธิการฯแล้ว ไม่ได้กำหนดเรื่องการตรวจสอบบุคคลหรือคุณสมบัติของบุคคลแต่ประการใด 

“ดังนั้น การรับเรื่องจาก ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ จึงเป็นการจงใจขยายอำนาจหน้าที่ตนเอง และก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา”

ส่วนในประเด็นที่อ้างว่า ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ ยังคงประกอบวิชาชีพแพทย์ที่รพ.รามาธิบดีนั้น ข้อเท็จจริงคือ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ ไม่มีสถานะเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของโรงพยาบาลรามาฯ ตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งกสทช. นอกจากนี้ ยังได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งและเลิกประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอิสระอื่นที่มีส่วนได้เสียหรือมีประโยชน์ขัดแย้งไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกับการปฏิบัติหน้าที่กสทช.

ประธานกสทช. ยังชี้แจงกรณีที่รายงานของคณะกรรมาธิการฯ อ้างว่า ได้ยินยอมให้แต่งตั้งเป็นกรรมการธนาคารกรุงเทพ ทั้งที่ความจริงคือได้ปฏิเสธการรับตำแหน่งและไม่เคยปฏิบัติงานเป็นกรรมการของธนาคารกรุงเทพแต่อย่างใด แต่กรรมาธิการฯ จงใจที่จะบิดเบือนสรุปกล่าวหาว่ากระทำผิดฝ่าฝืนมาตรา 18 ขององค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 ซึ่งความจริงแล้วตำแหน่งกรรมการธนาคารก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขต้องห้ามของกฎหมายอีกด้วย ดังนั้น จึงเห็นถึงเจตนาที่ไม่สุจริต มีอคติ บิดเบือนเพื่อยัดเยียดความผิดให้ประธาน กสทช.อย่างชัดเจน

นอกจากนั้น ยังมีข้อกล่าวหาช่วงที่ศาสตราจารย์คลินิกนพ.สรณ สมัครเป็นกสทช. มีตำแหน่งเป็นรองคณบดีฝ่ายสวัสดิการและกิจการพิเศษ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกช่องรามาแชนแนล จึงมีลักษณะต้องห้าม ตรงนี้ก็เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน 

ความจริงคือฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยมหิดล ประกอบด้วยอธิการบดี รองอธิการบดี และผู้ช่วยอธิการบดี อีกทั้งตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายสวัสดิการและกิจการพิเศษ คณะแพทยศาสตร์ฯ ก็ไม่ได้เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการแบบบอกรับสมาชิก "ช่องรามาแชนแนล และมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ไม่ใช่นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม จึงเป็นการจับแพะชนแกะโดยไม่สุจริตเพื่อกล่าวหาเท่านั้น"

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top