นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่าจากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนพฤษภาคม 2567 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค(Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัว ลดลงจากระดับ 62.1 เป็น 60.5 ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา และต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมากังวลว่าการเมืองไทยเริ่มขาดเสถียรภาพหลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว. เกี่ยวกับคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี และกังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงและฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน และผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อบานปลาย อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 54.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 57.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 69.8 ซึ่ง ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 10 เดือน ทุกรายการ เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนเมษายน ที่อยู่ในระดับ 56.0 58.9 และ 71.5 ตามลำดับ
“การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ราคาพลังงานและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง”นายธนวรรธน์กล่าว
ขณะที่ความคิดเห็นของภาคธุรกิจ จากสมาชิกหอการค้าไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ในเดือนพฤษภาคม 2567 ปรับตัวดีลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 55.1 แต่ความเชื่อมั่นถือว่า ดีขึ้นเกินกว่าค่ากลางระดับ 50 ในทุกภูมิภาค รวมทั้งตัวชี้วัดทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจโดยรวม การบริโภค การลงทุน ภาคท่องเที่ยว ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า การค้าชายแดน และภาคบริการและเห็นว่ามาตรการด้านภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ทำให้การท่องเที่ยวกับมาดีขึ้น แม้ยังจะมีความกังวลใจในเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลก และสงครามต่าประเทศด้วยก็ตาม รวมถึงความกังวลปริมาณน้ำในเขื่อน เพื่อการเกษตรและอุปโภค-บริโภค ที่อาจจะไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ในการสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย โดยมีแนวทางการดูแลค่าแรงของประชาชนให้เหมาะสมกับค่าครองชีพและไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานในภาคธุรกิจขนานเล็ก มาตรการกำกับจัดสรรแก้ไขปัญหาน้ำที่เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในภาคเกษตร-อุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางการสนับสนุนให้มีการลงทุนภายในประเทศกับนักลงทุนชาวต่างชาติเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวขึ้น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วง Low Season เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่คึกคักขึ้นการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม โดยทางศูนย์ฯ คาดว่าเศรษฐกิจไทยแม้จะมีปัจจัยบวกอยู่บ้าง แต่เนื่องจากปัญหาด้านการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.ทำให้เกิดความกังวลที่ผลจะออกมาว่าเกิดความวุ่นวายหลังมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของนายกรัฐมนตรีและพรรคก้าวไกลที่จะออกมาในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน พ.ค.ออกมาเริ่มลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 3 เดือน ดังนั้น ไม่ว่าความกังวลใจในหลายเรื่องที่ยังมีอยู่ แต่หากภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี’67 ให้เต็มที่ใน
4 เดือนที่เหลือ รวมถึงในงบปี’68 ที่จะเริ่ม 1 ต.ค.2567ได้อย่างเต็มที่ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโต 2.6% แต่หากดิจิทัล วอลเล็ต ออกมาใชัจริงมีเม็ดเงินเข้าระบบ 5 แสนล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ได้น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 3-3.2% ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี