นายพชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประจำประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เปิดเผยว่า การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือ กองทุนยูโซ่ (USO) ในส่วนของโครงการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และเพื่อสังคมในพื้นที่ขาดแคลนหรือยังขาดบริการที่ทั่วถึง ภายใต้แผน USO ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2565) ตามกรอบงบประมาณเดิม 6,600 ล้านบาท ได้ถูกปรับลดลง 5,862.15 ล้านบาท เนื่องจากยอดการจัดเก็บรายได้ผ่านการหักรายได้ 2.5% ของโอเปอเรเตอร์โทรคมนาคมทั้งหมดต่ำกว่าการคาดการณ์ โดยปัจจุบันเงินกองทุน USO มีอยู่ 1,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น

ทั้งนี้แผน USO ฉบับที่ 3 ค้างการพิจารณามาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งแผน USO ฉบับที่ 3 เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ สาธารณสุข ความมั่นคง และบริการสาธารณะ โดย กสทช.ใช้งบของกองทุน USO เพื่อให้บริการ 5 ประเภท ได้แก่ 1.บริการ Wi-Fi สาธารณะประจำหมู่บ้าน /บริการศูนย์อินเตอร์เนตสาธารณะ (ศูนย์ USO Net) 3.บริการห้องอินเตอร์เนตสาธารณะ (USO Wrap) 4.บริการสัญญาณอินเตอร์เนตความเร็วสูงสำหรับโรงเรียน และ5.บริการสัญญาณอินเตอร์เนตความเร็วสูงสำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล

“การกำหนดแผน USO ฉบับที่ 3 และฉบับที่ 4 ที่ค้างมาตั้งแต่ปี 2565 นั้น โดยแผน USO ฉบับที่ 3 เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ ประโยชน์สาธารณะ ความมั่นคงสาธารณสุข ส่วนแผน USO ฉบับที่ 4 ของป ี2566/2567 ยังไม่มีแผนปฏิบัติการ รอสำนักงานดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม ( ดศช.) กำหนดแผน ซึ่งการกำหนดแผน USO ฉบับที่ 4 มีระยะเวลา 3 ปี และกำลังสรุปยอดการจัดเก็บปีแรก”นายพชร กล่าว

ในขณะเดียวกัน กสทช.จัดเก็บและบริหารจัดการงบรายรับและรายจ่ายผ่านกองทุน USO ในการกำหนดแผนได้ประสานงานกับ ดศช. ในการนำข้อมูล เป้าหมาย และกรอบวงเงิน เพื่อให้ กสทช.พิจารณา ตามมาตรา 50 วรรค 1 และให้เป็นไปตาม มาตรา 74 และมาตรา 50 วรรค 2 และเพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการสังคม ให้เป็นไปตามแผนและนโยบายชาติ โดยคาดว่าจะสามารถนำแผนงบประมาณเข้าสู่ระบบได้ภายในไตรมาสที่ 4/2567 เพื่อให้เกิดการส่งเสริมธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนโทรคมนาคม และเศรษฐกิจดิจิทัล

นอกจากนี้ที่ผ่านมาปัญหาโครงการศูนย์ USO Net ในเขตพื้นที่ Zone C ที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันคือบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายในพื้นที่ Zone C จำนวน 24,700 หมู่บ้าน เกิดปัญหาไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ USO แผนฉบับที่ 1 และเหลือการสร้างอาคารอีก 239 แห่ง จาก 2,184 แห่ง ทำให้ กสทช.ต้องดำเนินการบันทึกข้อตกลงยกเลิกสัญญา โดย กสทช.ต้องจ่ายค่าก่อสร้างอาคารที่ดำเนินการไปแล้วให้ NT เป็นจำนวนเงิน 780 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายที่ตกลงกันไม่ได้ จำนวน 480 ล้านบาท และค่าก่อสร้างอาคาร จำนวน 300 ล้านบาท

นายชาญวุฒิ อำนวยสิน ผู้อำนวยการสำนักบริการโทรคมนาคมโดยทั่วถึงและเพื่อสังคม(USO) กล่าวว่า ในขณะนี้โครงการศูนย์ USO Net จำนวนการสร้างอาคารที่เหลือ 239 แห่ง กสทช.อยู่ระหว่างกระบวนการทางจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าจะสามารถประกวดราคาเพื่อเปิดรับผู้ประกอบการร่วมประมูลโครงการได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,400-1,600 ล้านบาท โดยเงื่อนไขการประมูลนั้น ผู้ชนะการประมูลจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 10 เดือน หลังจากลงบันทึกข้อตกลง