วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค

เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค

วันเสาร์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : กลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค
  •  

นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนจากหลายประเทศเข้ามาให้ความสนใจลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะ โดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น ซึ่งต่างมองว่าไทยเป็นฐานการผลิตที่มีความสำคัญระดับภูมิภาค ภายใต้การคาดการณ์ในปี 2567 ซึ่งเห็นได้จากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยมียอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มียอดรอการรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) อยู่ที่ 16,939 ล้านบาท คาดว่าในปี 2567 นี้จะสามารถทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 50% และ ในปี 2568 อีก 50%

ทั้งนี้ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมของอมตะ อยู่ในจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ชลบุรี,นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน จังหวัดระยอง โดยนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นอกจากผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์จากแรงจูงใจที่สำคัญจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ การส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(IEAT) แล้ว พื้นที่ EEC ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค


ส่วนนิคมอุตสาหกรรมในต่างประเทศ บริษัทได้เข้าไปลงทุนใน 2 ประเทศหลัก คือ เวียดนาม และ สปป.ลาว โดยในเวียดนาม ประกอบไปด้วย นิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง และโครงการนิคมอุตสาหกรรมร่วมทุนกับพันธมิตรนานาชาติอีก 1 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ เบียนหัว 2.นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ลองถั่น 3.นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ฮาลอง และ 4.นิคมอุตสาหกรรมกว่างจิ(Joint Venture) คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งสิ้นกว่า 860 ล้านเหรียญสหรัฐ บนที่ดินที่ได้รับใบอนุญาต 18,750 ไร่ สปป.ลาว 2 แห่ง ประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรมอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้นาเตย แขวงหลวงน้ำทา และนิคมอุตสาหกรรมอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ แขวงอุดมไซ

ทั้งนี้ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ(Smart City) ที่มีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ประกอบการจากทั่วโลก โดยบริษัทได้วางแนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ระบบพลังงานสะอาด การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งช่วยส่งเสริมให้นิคมอุตสาหกรรมของบริษัทเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาทำเลที่ดี และเชื่อมโยงการผลิตสู่การส่งออกในภูมิภาคอาเซียน

“จุดเด่นของทำเลที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท ได้รับความสนใจจากธุรกิจหลายภาคส่วนที่ต้องการย้ายฐานการผลิต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีหรืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต่างต้องการเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของบริษัท เพื่อใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและการสนับสนุนจากภาครัฐที่แข็งแกร่ง มุ่งเน้นการเป็นเมืองอุตสาหกรรมครบวงจร”นายโอซามู กล่าว

อย่างไรก็ตามบริษัทได้กำหนดเป้าหมายให้ทุกพื้นที่พัฒนา เป็นมากกว่าสถานที่ประกอบธุรกิจ โดยเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาแหล่งพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอุตสาหกรรมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้ผู้เช่าและนักลงทุนสามารถดำเนินธุรกิจ สามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ ผ่านโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

“ทิศทางในปี 2568 บริษัทยังมองว่ากระแส China Plus One จะยังดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นกระแสที่เด่นชัดมาตั้งแต่ช่วงหลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงการระบาดของโควิด-19 ทำให้การย้ายฐานการผลิตนอกจีนไปสู่ประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะยังคงเดินหน้าในการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการให้บริการ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก”นายโอซามู กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ธรรมนัส'รับคุยทักษิณ ก่อนดึง'อนุดิษฐ์-การุณ' เปรยเตรียมเปิด'บิ๊กเนม-สส.'อีกเพียบ

ด่วน! ‘เปรมชัย-พวก’นอนคุก! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

คดีพลิก! 'จัสติน บีเบอร์'ติดหนี้อดีตผู้จัดการ200ล้าน แฉเดือดไม่ยอมใช้หนี้อ้างไม่มีเงิน

ฟ้องด้วยภาพ! 'เอกนัฏ'อึ้ง! เหล็ก'ซิน เคอ หยวน' โผล่คาซากอาคาร โรงงานถล่มที่ 'นิคมฯอมตะซิตี้ 10'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved