‘แอ็คมี่ วรวัฒน์’ พร้อมให้รัฐบาลกู้ Bitcoin  เพื่อเป็นกองทุนสำรอง โดยไม่คิดดอกเบี้ย

‘แอ็คมี่ วรวัฒน์’ พร้อมให้รัฐบาลกู้ Bitcoin เพื่อเป็นกองทุนสำรอง โดยไม่คิดดอกเบี้ย

วันจันทร์ ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 11.06 น.

นายวรวัฒน์ นาคแนวดี หรือ Acme Traderist ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptocurrency และ ธุรกิจ Financial Technology (เทคโนโลยีทางด้านการเงิน) และยังเป็นผู้ทำเหมืองขุด Bitcoin และทำการศึกษา Bitcoin เป็นกลุ่ม แรกมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มในช่วง 3 ปีแรกของการกำเนิดขึ้นของ Bitcoin ได้ออกมาเปิดเผยว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ท่านอดีตนายกรัฐมนตรีผู้มีวิสัยทัศน์เป็นอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับแนวคิดของผม ที่ต้องการสนับสนุนให้ไทยใช้ Bitcoin เป็นกองทุนสำรองของประเทศ เพราะผมมองว่า Bitcoin นั้นมีศักยภาพสูงมากในการเป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของโลก และหากประเทศไทยนำ Bitcoin มาเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสำรอง จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และเปิดโอกาสให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Blockchain ในระดับภูมิภาค

 


จากเหตุผลดังกล่าวผมจึงมีแผนจะทำการ “ปล่อยกู้ Bitcoin ให้แก่ภาครัฐโดยไม่คิดดอกเบี้ย” เพื่อใช้เป็นกองทุนสำรองของประเทศ และมีการกำหนดการค้ำประกันค่าความผันผวนทางด้านราคาของ Bitcoin หากราคามีความผันผวนรุนแรงในเชิงลบ โดยผมยังสามารถรวบรวมกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ถือครองสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) จากนานาชาติโดยเฉพาะ Bitcoin ที่พร้อมให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของประเทศไทย

 

“ผมถือครอง Bitcoin มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2012 ที่ผมเริ่มทำเหมืองขุด Bitcoin โดยเป็นคนกลุ่มแรกๆ ในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้ผมเชื่อมั่นใน Bitcoin ตลอดมาก็คือเทคโนโลยี Blockchain ที่มีความโปร่งใสสูงสุด ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ข้อมูลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และมีกระจายศูนย์อำนาจการทำงานแบบไร้ตัวกลางควบคุม ทำให้ Bitcoin เป็นต้นแบบหลักของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกที่ใช้ระบบ Blockchain ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมานี้ผมได้มีการขาย Bitcoin ออกไปน้อยมาก โดยส่วนใหญ่จะใช้แจกหรือจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้กับคนไทยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และเพื่อการลงทุนบางส่วน ตั้งแต่ก่อนที่ประเทศไทยจะมีพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ฉบับปัจจุบัน ซึ่งในความเห็นของผม กฎหมายฉบับนี้ยังต้องได้รับการพัฒนาแก้ไข และปรับปรุงอีกมาก เพื่อให้เป็นไปในทิศทางที่ให้การสนับสนุนต่อภาคธุรกิจในแบบที่ยังสามารถควบคุมได้ดี โดยผู้กำกับดูแลบังคับใช้กฎหมาย และเสนอกฎหมายที่เกี่ยวข้องนี้จะต้องมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง“นายวรวัฒน์ กล่าว  

 

“สำหรับผมแล้วยังไม่มีความคิดที่จะขาย Bitcoin ที่ผมถือครองอยู่ดังนั้นผมจึงต้องการนำ Bitcoin ที่มีอยู่จำนวนหนึ่งมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการปล่อยกู้ให้กับภาครัฐ แบบไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจกับนานาชาติ ซึ่งผมเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้ และผมมั่นใจว่าการนำ Bitcoin มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสำรอง จะช่วยให้ประเทศไทยมีความหลากหลายทางการเงินมากขึ้น และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกในยุคปัจจุบันที่ระบบการเงินโลกใหม่ได้เข้ามาแทรกแซงการเงินยุคเก่าไปแล้วได้ดียิ่งขึ้น" นายวรวัฒน์ กล่าวในตอนท้าย

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top