จากการสำรวจของ Terra Media and Consulting ในปี 2567 พบว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2568 คือ การบริการหลังการขาย ระบบรักษาความปลอดภัย คุณภาพบ้าน และการดูแลจากทีมงานมืออาชีพ ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าเครดิตของแบรนด์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ความเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงเทรนด์สำคัญในวงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก ที่ผู้บริโภคมองการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นการลงทุนระยะยาว โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน (Total Cost of Ownership) มากกว่าแค่ราคาซื้อขายเริ่มต้น นอกจากนี้ เทคโนโลยีและความปลอดภัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ในยุคที่การทำงานจากที่บ้านกลายเป็นความปกติใหม่

เปิดกลยุทธ์ LIFE-LONG PROMISE แสนสิริ ผู้ครองใจลูกค้ามากกว่า 130,000 ครอบครัวทั่วประเทศตลอดระยะเวลา 40 ปี จึงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานบริการด้วย 4 จุดแกร่งหลัก ได้แก่ 1. LIFE-LONG QUALITY: ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าระยะยาว ด้วยคุณภาพการก่อสร้างและการรับประกันที่เหนือระดับ ประกอบด้วย Quality Control - ตรวจสอบมากกว่า 320+ รายการ ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงส่งมอบ, Warranty - รับประกันโครงสร้างสูงสุด 5 ปี พร้อม Home Check-Up เชิงรุกสูงสุด 2 ครั้ง, Quality Passed Check 100% - ตรวจเช็กด้วย 13 เครื่องมือทันสมัยก่อนส่งมอบ

2. LIFE-LONG SECURITY: รับมือความกังวลด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัล ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทำงาน 24 ชั่วโมง ประกอบด้วย AI CCTV Analytic - ระบบ Motion Sensor วิเคราะห์ความผิดปกติด้วย AI แบบ Real-time, IoT Monitoring Management – ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ, Access Control - ระบบควบคุมการเข้าออกด้วย Face Scan และ License Plate Reader และ Command Centre - ห้องควบคุมที่ผนึกระบบ AI ป้องกันเหตุร้ายแรงได้ 100% ตามรายงานของ McKinsey Global Institute ระบุว่าเทคโนโลยี Smart Home Security จะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่ม Digital Natives ที่ต้องการเชื่อมต่อระบบบ้านกับอุปกรณ์มือถือ

3. LIFE-LONG CARING: ตอบสนองเทรนด์ลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัวระดับพรีเมียม ด้วยการดูแลจากนิติบุคคลมืออาชีพ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลทั้ง ISO 9001, ISO 41001, ISO 14001 และ Fitwel มีบริการครอบคลุม Living Management – ดูแลพื้นที่ส่วนกลางด้วยมาตรฐานระดับสากล, Customized Service - บริการพิเศษด้วย Butler และ Concierge Service และ Asset Management - คำแนะนำด้านอสังหาฯ ครบวงจรข้อมูลจาก Luxury Institute เผยว่า 78% ของลูกค้ากลุ่ม High-Net-Worth ให้ความสำคัญกับบริการ Concierge และพร้อมจ่ายเพิ่มสำหรับบริการที่เป็นส่วนตัวและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคล

4. LIFE-LONG COMMUNITY: รองรับการใช้ชีวิตแบบ Work-Life Integration สร้างคอมมูนิตี้คุณภาพด้วย Facility ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ครอบคลุมทุกเจนเนอเรชั่นและสัตว์เลี้ยงแสนรัก เช่น Sansiri Backyard, Co-Kitchen และ Co-Working Space พร้อมกิจกรรมและสิทธิพิเศษมากมายสำหรับ Sansiri Family

ในสภาวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง การสร้างความแตกต่างด้วยบริการหลังการขายจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ผู้พัฒนาโครงการสามารถรักษาฐานลูกค้าระยะยาวและสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง แสนสิริจึงมองการลงทุนในบริการหลังการขายไม่ใช่เพียงต้นทุนแต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

แสนสิริมั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ LIFE-LONG PROMISE กับ 4 จุดแกร่ง “Quality-Security-Caring-Community” #ดูแลคุณไม่สิ้นสุด มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า โดยให้ความสำคัญกับการดูแลตลอดวงจรชีวิตของการอยู่อาศัย สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าและประสบการณ์มากกว่าตัวสินค้า จะส่งผลให้แสนสิริครองอันดับหนึ่ง ของอสังหาฯ ในเรื่องของบริการหลังการขาย (After-Sales Service) ได้เป็นอย่างดี ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://siri.ly/bSWypg3

- 030