วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ไอเดีย‘แม้ว’ซื้อหนี้ปชช.จากแบงก์เป็นไปได้ แต่ต้องระวัง‘ดาบสองคม’ด้วย

ไอเดีย‘แม้ว’ซื้อหนี้ปชช.จากแบงก์เป็นไปได้ แต่ต้องระวัง‘ดาบสองคม’ด้วย

วันพุธ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2568, 11.34 น.
Tag : แก้หนี้ ซื้อหนี้ ทักษิณ ธนาคาร หนี้ครัวเรือน
  •  

นักวิชาการ มธ. วิเคราะห์ ‘นโยบายซี้อหนี้’ ของทักษิณเป็นไปได้ เตือนระวังดาบสองคม กลายเป็นอุ้มแบงก์

18 มี.ค. 2568 รศ.ดร.วิชัย วิทยาเกียรติเลิศ ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงแนวคิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนด้วยวิธีการซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคารทั้งหมด ซึ่งจะดำเนินการผ่านบริษัทหรือหน่วยงานเฉพาะกิจ โดยจะไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาล แต่จะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนแทน แล้วให้ประชาชนผ่อนชำระในจำนวนที่น้อยลงจนปลดหนี้ได้สำเร็จ ว่า นโยบายซื้อหนี้เสียที่ถูกเปิดเผยออกมาในขณะนี้ถือเป็นมาตรการใหญ่ที่จะส่งกระทบต่อโครงสร้างหนี้ของประเทศไทยโดยตรง


โดยข้อมูลปี 2566 พบว่าหนี้ครัวเรือนของไทยมีมูลค่า 15.54 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นหนี้เสีย (NPL) ราว 4% หรือคิดเป็นมูลค่า 6.2 แสนล้านบาท ซึ่งแนวทางการให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เข้ามารับซื้อ NPL จากธนาคารและสถาบันการเงินแทนการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ถือเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้และมีความเหมาะสมในเชิงนโยบายและเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่เป็นกลไกกลาง กำกับดูแล และสร้างกรอบการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและประโยชน์สูงสุดกับประชาชนผู้เป็นลูกหนี้

พร้อมกำหนดมาตรการคุ้มครอง เช่น การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ลดดอกเบี้ย ลดภาระหนี้จริง และ กำกับให้ AMC ดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม นโยบายซื้อหนี้เปรียบเสมือนดาบสองคม กล่าวคือ หากดำเนินการได้ถูกทางก็จะสามารถฟื้นเศรษฐกิจได้จริง จะช่วยลดภาระงบประมาณและหนี้สาธารณะ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชน ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือจำเป็นต้องมีตัวเลข มีความโปร่งใส และมีเป้าหมายชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การช่วยให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้

“เปรียบให้เห็นภาพจากฐานคิดในกรณีที่บริษัทบริหารสินทรัพย์เข้ามารับซื้อ NPL จากธนาคารและสถาบันการเงินในราคาที่ลดลงเฉลี่ย 35% ของยอดหนี้ที่รับซื้อ ซึ่งเป็นตามกลไกตลาดปกติของการรับซื้อ NPL จะสามารถนำเงินเข้าสู่ระบบได้ 1 – 2.1 แสนล้านบาท และช่วยดันผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ให้เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า เป็นจำนวนเงินราว 1.6 – 3.2 แสนล้านบาท ทั้งยังช่วยลด NPL ได้ถึง 50%-100%” รศ.ดร.วิชัย กล่าว

รศ.ดร.วิชัย กล่าวต่อไปว่า แต่อีกด้านหนึ่ง นโยบายนี้ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะหากรัฐบาลแก้เฉพาะหนี้โดยไม่แก้ไขพฤติกรรมทางการเงินของประชาชนด้วย เราจะเห็นปัญหาเดิมกลับมา นั่นคือพักหนี้-รีไฟแนนซ์แล้วก็จะกลับมาเป็นหนี้อีก ตรงนี้จะกลายเป็นกับดักหนี้ซ้ำซาก ซึ่งตัวอย่างจากหลายประเทศชัดเจนว่ามาตรการแบบนี้ถ้าไม่มีวินัยทางการเงินคู่ขนานด้วยแล้วก็จะล้มเหลว เช่น โครงการพักหนี้เกษตรกร หรือคลินิกแก้หนี้ที่ช่วยได้แค่ 3.2 ล้านคนจากจำนวนคนไทยที่เป็นหนี้กว่า 25.5 ล้านคน

ทั้งนี้ ตนเสนอว่า รัฐบาลควรจัดทำมาตรการหรือเลือกช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบางเท่านั้น แต่ไม่ควรหว่านไปทั่วทั้งประเทศ เช่น ใช้เฉพาะกับผู้ที่มีรายได้ต่ำและมีหนี้จำนวนต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยจัดตั้ง AMC เป็นหน่วยงานกลาง ตามที่อดีตนายกฯ ทักษิณ นำเสนอไอเดีย เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารหนี้อย่างมืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมากไปกว่านั้นควรจะต้องดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูรายได้ เช่น การส่งเสริมอาชีพด้วย

อนึ่ง มีตัวอย่างประเทศที่ทำเรื่องนี้ได้ใกล้เคียงที่สุดคือไอซ์แลนด์ โดยในช่วงหลังวิกฤติปี 2551 มีการดำเนินนโยบายตัดหนี้ให้ประชาชนโดยตรงผ่านการใช้งบประมาณ 10% ของ GDP ภายในระยะเวลาแค่ 3 ปี ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนในประเทศลดลง 30% และ GDP ก็กลับมาโตเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป

“แต่สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือต้องออกแบบกันให้ดี เพราะแม้ว่าแนวทางนี้จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วจริง ลด NPL ได้จริง แต่ถ้าออกแบบไม่ดี หรือสุดท้ายแล้วรัฐต้องนำเงินภาษีออกมาช่วยอุดหนุนเอง มันจะกลายเป็น Bailout ที่ธนาคารและคนรวยได้ประโยชน์แต่คนจนไม่ได้อะไร สิ่งสำคัญคือต้องกันไม่ให้กลายเป็นนโยบายอุ้มธนาคารและเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางกลุ่ม แต่ต้องทำให้เป็นนโยบายช่วยประชาชนอย่างแท้จริง” รศ.ดร.วิชัย กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวคิดดังกล่าว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงในระหว่างขึ้นเวทีพบปะมวลชนเสื้อแดงในงานเรื่องเล่า "ประสบการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน" ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 โดยนายทักษิณ กล่าวในตอนหนึ่งว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตนคิดกับนายกฯอิ๊งค์ ดังๆ ว่าทำอย่างไรจะให้หนี้สินคนไทยหมด เพราะวันนี้หนี้ครัวเรือนเยอะเหลือเกิน

“เราจึงคิดกันว่าจะซื้อหนี้ทั้งหมด ซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีหรือไม่ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน แล้วให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่องทำมาหากินใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท เพราะตนสามารถให้เอกชนลงทุน วันนี้รัฐเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว วันนี้จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมดเราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด และสร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายทำยากแต่ต้องทำ” นายทักษิณ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

https://www.naewna.com/politic/870130 กลับมาไม่เสียข้าวสุก! ‘ทักษิณ’เป่ากระหม่อม‘เสื้อแดง’ ขุดถึงปู่ขาประจำถึงตาม‘เห่าหอนไม่เลิก’

https://www.naewna.com/business/870190 อดีตขุนคลังติง‘แม้ว’แก้ผิดวิธี! ปมเสนอไอเดียซื้อหนี้ประชาชนจากธนาคาร

043..

 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ธอส. ปล่อย อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงล้านละ 4,400 บาทต่อเดือน เท่านั้น! ธอส. ปล่อย อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงล้านละ 4,400 บาทต่อเดือน เท่านั้น!
  • LH Bank จับมือ Sertis และ AWS พัฒนา “LISA” (ไลซ่า) แชทบอทอัจฉริยะ LH Bank จับมือ Sertis และ AWS พัฒนา “LISA” (ไลซ่า) แชทบอทอัจฉริยะ
  • ค่าเงินบาทประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ค่าเงินบาทประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2568
  • ภาษีทรัมป์ป่วนอุตฯยานยนต์ ฉุดยอดผลิตรถเหลือแค่1.4-1.45ล้านคัน ภาษีทรัมป์ป่วนอุตฯยานยนต์ ฉุดยอดผลิตรถเหลือแค่1.4-1.45ล้านคัน
  • กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.60-33.30 คาด กนง.คงดอกเบี้ยรอบนี้ กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.60-33.30 คาด กนง.คงดอกเบี้ยรอบนี้
  • ค่าเงินบาทประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ค่าเงินบาทประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2568
  •  

Breaking News

แนวหน้าวิเคราะห์ : ‘อิ๊งค์’ลุยไฟปรับครม.ใหญ่ คลิปเสียงรุมเร้า มวลชนรุกไล่ จะไปรอดไหม?

นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง

แฉรัฐบาลงัดสารพัด‘วิชามาร’สกัดกั้นมวลชนร่วมชุมนุม‘ม็อบ 28 มิ.ย.’

เซ็นทรัล รีเทลกางโรดแมป3ปี เตรียมอัดงบลงทุนกว่า4.5-4.7หมื่นล้าน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved