วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
กรมพัฒน์ ผนึก 3 องค์กร MOU โครงการ ‘Family Business Thailand’

กรมพัฒน์ ผนึก 3 องค์กร MOU โครงการ ‘Family Business Thailand’

วันจันทร์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568, 11.47 น.
Tag : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ธุรกิจ ผู้ประกอบการ สภาหอการค้า SET
  •  

4 เสาหลักองค์กรธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกันต่อยอดความสำเร็จ โครงการ Family Business Thailand ให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ด้วยเป้าหมายสู่การสร้าง ‘ธรรมนูญครอบครัวแห่งชาติ’ ให้กับธุรกิจครอบครัวไทย และการจัดอบรมให้ความรู้รุ่นที่ 4 วันที่ 23 เมษายน 2568 ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

ทั้งนี้นับจากการเริ่มต้นโครงการฯ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ได้จัดอบรมให้กับผู้ประกอบการ SMEs มาแล้ว 3 รุ่น 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และเชียงใหม่ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในปีนี้ได้จัดการอบรมรุ่นที่ 4 ในวันที่ 23 เมษายน 2568 ณ โรงแรมแก้วสมุยรีสอร์ท จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคใต้ได้เข้าร่วมและพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจครอบครัวเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยและเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ เราจึงได้ริเริ่มโครงการ Family Business Thailand โดยความร่วมมือจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจครอบครัวไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนในหลายมิติ อาทิ การอบรมสัมมนา การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และกรณีศึกษาธุรกิจต้นแบบ การจัดทำธรรมนูญครอบครัวเพื่อลดความขัดแย้ง และการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ต้องการพัฒนาการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแนวทางขยายความร่วมมือไปยังพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สถาบันการเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน สถาบันการศึกษาและวิจัย เพื่อพัฒนาหลักสูตรการบริหารธุรกิจครอบครัว รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจครอบครัว ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวไทยสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “แม้ธุรกิจครอบครัวมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในประเทศไทย และสามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) คิดเป็น 71.23% ทว่าในทางปฏิบัติ ธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่มักมีปัญหาการส่งต่อธุรกิจ โดยมีสาเหตุที่สำคัญจากความไม่เข้าใจของสมาชิกในครอบครัวที่มีช่องว่างระหว่างรุ่น (Generation Gap) กันอยู่มาก ฉะนั้น การมีกลไกหรือวิธีการจัดการ นั่นก็คือการสร้าง “ธรรมนูญครอบครัว” เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน รวมทั้งการจัดตั้ง “สภาครอบครัว” เพื่อเป็นเวทีในการแก้ไขปัญหาก็จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น โครงการ Family Business Thailand           

ทั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความเข้าใจเรื่องการสร้างธรรมนูญครอบครัว อีกทั้งยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์จากธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวอื่น ๆ ใช้เป็นกรณีศึกษาได้ อีกทั้งยังจะสามารถต่อยอดสู่เป้าหมายของการพัฒนา “ธรรมนูญแห่งชาติ” ในอนาคตสำหรับธุรกิจครอบครัวในระดับมหภาคอีกด้วย

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจครอบครัวจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ Family Business Thailand ซึ่งมีแนวทางการสนับสนุนในหลายมิติ เช่น การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหารและการวางแผนสืบทอดกิจการ การให้คำปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลและโครงสร้างธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัวและเศรษฐกิจไทยนั้น Ffpในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนา LiVE Platform ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวสามารถเข้าถึงหลักสูตรเฉพาะด้าน อาทิ การบริหารจัดการภายใน การปรับโครงสร้างธุรกิจ การวางแผนมรดก และการสร้างกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในทุกยุคทุกสมัย ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยการกำหนดนโยบายของภาครัฐ หากแต่ยังต้องอาศัยพลังขับเคลื่อนจากภาคธุรกิจ ซึ่งในบริบทของประเทศไทยก็เช่นเดียวกับนานาประเทศ ธุรกิจครอบครัวถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการวางรากฐานอย่างมั่นคงและดำเนินกิจการสืบทอดต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยตระหนักถึงบทบาทของตนในการช่วยขับเคลื่อน ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจครอบครัวให้มีศักยภาพมากขึ้น ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการผลิตองค์ความรู้ งานวิจัย และกรณีศึกษาที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาธุรกิจครอบครัวให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ

โอกาสนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและให้การสนับสนุนส่งเสริม ภาคธุรกิจ สภาหอการค้าไทย มีเครือข่ายสมาชิกกว่า 200,000 ราย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการผลิตองค์ความรู้และงานวิจัยต่างๆ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีธุรกิจครอบครัวจดทะเบียนอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งสี่หน่วยงานจะผนึกกำลังความร่วมมือช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจครอบครัวไทยในทุกระดับ ตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ อีกทั้งจะสามารถนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนและสามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายของการสร้าง “ธรรมนูญครอบครัวแห่งชาติ" ให้กับธุรกิจครอบครัวไทยในอนาคตอีกด้วย

-031

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • คต.เตือนผู้ส่งออกปรับตัว รับมือมาตรฐานสินค้าฉบับใหม่ของเคนยา คต.เตือนผู้ส่งออกปรับตัว รับมือมาตรฐานสินค้าฉบับใหม่ของเคนยา
  • กรมพัฒนาธุรกิจฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวงซื้อหุ้นคืน เพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้-15 ก.ค.68 กรมพัฒนาธุรกิจฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวงซื้อหุ้นคืน เพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้-15 ก.ค.68
  • คต.เตือนผู้ส่งออกรับมือมาเลย์คุมเข้มนำเข้าอาหาร คต.เตือนผู้ส่งออกรับมือมาเลย์คุมเข้มนำเข้าอาหาร
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมงาน แม็คโคร โชห่วยออนทัวร์รวมมิตร ครั้งที่ 16 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมงาน แม็คโคร โชห่วยออนทัวร์รวมมิตร ครั้งที่ 16
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผนึก 3 พลัง สานต่อโครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผนึก 3 พลัง สานต่อโครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการ
  • งบการเงินปี’67 ชี้ภาพรวมธุรกิจไทยฟื้นตัวแรง! รายได้รวมทะลุ 61 ล้านล้านบาท งบการเงินปี’67 ชี้ภาพรวมธุรกิจไทยฟื้นตัวแรง! รายได้รวมทะลุ 61 ล้านล้านบาท
  •  

Breaking News

'ใหม่ ดาวิกา'แซ่บไฟลุก เสิร์ฟลุคเสื้อซีทรูตัวบางสุดฮอต

อัปเดตพายุ ‘ดานัส’ พุ่งเข้าใกล้ไต้หวัน ไม่กระทบโดยตรงกับไทย

‘อภัยภูเบศร’เปิดตำราสมุนไพรดูแลสุขภาพ ‘รากสามสิบ’ปลุกพลังหญิง เมล็ด‘หมามุ่ย’เติมไฟชาย

ตม.รวบสาวเขมร! อ้างเชื่อ'ฮุนเซน'ให้กลับประเทศ ตรวจพบอยู่เกินอนุญาต

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved