นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือน ก.พ. 2568 มีทั้งสิ้น 115,487 คัน ลดลง 13.62% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพราะผลิตขายในประเทศลดลง 21.26% โดยเฉพาะรถกระบะที่ยังคงลดลง 42.10% ตามยอดขายรถกระบะที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลง 9.48% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งลดลงถึง 47.01% ตามยอดส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ใน 2 เดือนแรกในปีนี้ (ม.ค.-ก.พ. 2568) มีจำนวนทั้งสิ้น 222,590 คัน ลดลง 19.29% จากช่วงเดียวกันปี’67 โดย 2 เดือนแรกของปีนี้รถยนต์มียอดขาย 97,395 คัน ลดลง9.53% จากช่วงเดียวกันปี’67

ทั้งนี้ ในเดือนก.พ. ผลิตเพื่อส่งออก ได้ 78,535 คันเท่ากับ 68% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 9.48% จากเดือน ก.พ. 2567 ส่งผลให้ 2 เดือนแรกของปีนี้ผลิตเพื่อส่งออกได้ 153,579 คัน เท่ากับ 69% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 15.56% จากช่วงเดียวกันปี’67 ปี ขณะที่เดือนก.พ. ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 36,952 คันเท่ากับ 32% ของยอดการผลิตทั้งหมดลดลง 21.26% จากเดือน ก.พ.2567 ส่งผลให้ 2 เดือนแรกของปีนี้ ผลิตได้ 69,011 คัน เท่ากับ 31% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง26.52% จากช่วงเดียวกันปี’67

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ก.พ.2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,313 คัน ลดลง 1.20% จากเดือน ม.ค. 2568 และลดลง 6.68% จาก เดือนก.พ. 2567 เนื่องจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินกับผู้ซื้อรถกระบะที่ยังคงลดลง 14.9% คงต้องรอยอดจองรถยนต์ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ที่เริ่มวันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 6 เมษายน 2568 ที่สถาบันการเงินอาจปล่อยสินเชื่อรถกระบะมากขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงมาตรการช่วยเหลือรถกระบะในโครงการ “รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ” โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อซื้อรถกระบะซึ่งเป็นรถประกอบธุรกิจของประชาชนและเกษตรกรซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย มีวงเงินห้าพันล้านบาท โดยเริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 ซึ่งอยู่ในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์และส่งเสริมให้ SME ซื้อรถกระบะไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้

ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ก.พ.2568 ส่งออกได้ 81,323 คัน เพิ่มขึ้น 30.49% จากเดือนที่แล้ว แต่ลดลง 8.34% จากเดือนก.พ. 2567 เพราะจะมีการเปลี่ยนรุ่นรถของรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงชะลอการผลิต ทำให้ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ยังคงต้องติดตามการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 2 เมษายน 2568 ว่าจะมีประเทศไหนบ้าง และบางประเทศคู่ค้าลดคำสั่งซื้อเพื่อรอความชัดเจนในนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา บางประเทศคู่ค้ามีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกเข้ามามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น บางประเทศคู่ค้ามีกฎหมายควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากประเทศขึ้น ทั้งนี้ 2 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 143,644 คัน ลดลง 18.12% จากช่วงระยะเวลาเดียวกันปี’67

“ขอบคุณกระทรวงการคลังที่ออกมาตรการเพื่อช่วยให้ยอดขายรถยนต์กระบะเพิ่มขึ้น จึงขอให้เร่งแก้กฎหมายให้ครอบคลุมถึงสถาบันสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร และสถาบันสินเชื่อของบริษัทรถยนต์ได้เข้าร่วมโครงการ “รถกระบะพี่มีคลังค้ำ”

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เดือน ก.พ.2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,375 คันเพิ่มขึ้น 16.42% จากเดือน ก.พ. ปี 2567 ส่งผลให้ 2 เดือนแรกของปีนี้มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 22,086 คัน ลดลง 0.86% จากช่วงเดียวกันปี’67 ส่งผลให้ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 249,335 คัน เพิ่มขึ้น 61.88% จากปี’67

นายมิชิมาสะ โคโนะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในไตรมาสแรก เฉพาะยอดขาย 2 เดือนแรกของปียังซบเซาต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยบริษัทมียอดจำหน่าย 12,969 ลดลง 16.8% เฉพาะกระบะขายได้ 9,379 ลดลง 19.3% จากปีที่แล้วขายได้ 15,583 คัน ตลาดรถกระบะซบเซาลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ดังนั้นหากมีมาตรการจากภาครัฐมาช่วยกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ถือเป็นสิ่งที่ดี ส่วนมาตรการ ปลดล็อกของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)“กระบะพี่ มีคลังค้ำ” จะช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่มากขึ้นนั้น มองว่าเป็นปัจจัยบวกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยแต่ผลตอบรับหรือว่ายอดขายจะดีขึ้นมากเพียงใดจะต้องดูเงื่อนไขต่างๆ ของ บสย.ที่จะประกาศออกมา

ขณะที่ผู้บริหารจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่เผยว่า รถกระบะเป็นรถที่ใช้ทำมาหากิน หลายคนต้องการซื้อรถกระบะมาใช้ในการประกอบอาชีพแต่เมื่อถูกปฏิเสธสินเชื่อก็ไม่สามารถทำงานได้ หรืองานไม่เกิดขึ้นดังนั้น มาตรการปลดล็อกของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”จะช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่มากขึ้น ซึ่งกระตุ้นยอดขายกระบะโตโยต้า ให้กลับมาได้ราว 15-20%ภายหลังปีที่แล้วพบยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งสูง 30-40%จากปกติยอดปฏิเสธสินเชื่อเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 15%