วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย  ชี้! ตลาดยานยนต์ปี ’68  มีแนวโน้มเติบโต ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ชี้! ตลาดยานยนต์ปี ’68 มีแนวโน้มเติบโต ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

วันอาทิตย์ ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ตลาดยานยนต์ปี ’68
  •  

สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ( TAJA) จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชน หัวข้อ “ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” มองแนวโน้มตลาดยานยนต์ปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยอาจจะดีขึ้นหากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (The Thai Automotive Industry Association : TAIA) เผยว่า “ในปี พ.ศ. 2568 คาดการณ์การผลิตรถยนต์ของไทย โดยรวมที่ 1.5 ล้านคัน เติบโต 2.1% โดยแบ่งเป็นการผลิต เพื่อจำหน่ายในประเทศ 5 แสนคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน และสำหรับรถจักรยานยนต์ คาดการณ์ยอดผลิต 2.1 ล้านคัน เติบโต 11.2%


สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ปี 2568 แบ่งเป็น 2 ด้าน   

ปัจจัยสนับสนุน  การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนด้านการเพิ่มขึ้นของการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะในโครงการสำคัญต่างๆ  และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงภาครัฐจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง  

ปัจจัยเสี่ยง สถานการณ์หนี้ครัวเรือน และหนี้เสียยังอยู่ในระดับน่ากังวล  อัตราส่วนหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือนของสินเชื่อรถยนต์ ยังอยู่ในระดับสูงมาก ส่งผลให้สถาบันการเงินยังคงนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงในการกลายเป็นเป็นหนี้เสีย และนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่เน้นการลดการเสียเปรียบด้านการค้ากับประเทศคู่ค้า โดยการเพิ่มภาษีสินค้า ที่นำเข้าไปในสหรัฐฯ ส่งผลให้สินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน ได้รับผลกระทบ เช่น รถยนต์นั่ง ยางรถยนต์ อะไหล่และอุปกรณ์ยานยนต์ต่างๆ รวมถึง ความเสี่ยงทางอ้อม ที่อาจทำให้ประเทศไทย กลายเป็นแหล่งระบายสินค้า จากประเทศที่ถูกกีดกันการค้าสูงกว่ามากขึ้น นำไปสู่การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจากภาวะอุปทานเกินขนาด

นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ โครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้ารถยนต์ใหม่  ที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป การบังคับใช้มาตรฐานมลพิษจากรถยนต์ ระดับยูโร 6  โดยรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน  เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ส่วนรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของภาครัฐ เป็นต้น

ทั้งนี้  สมาคมฯ ได้เสนอมาตรการต่อภาครัฐ ดังนี้

มาตรการกระตุ้นยอดขายในประเทศระยะสั้น  ไม่ว่าจะเป็น มาตรการด้านภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การนำค่าใช้จ่ายในการซื้อหรือค่าบำรุงรักษารถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผลิตในประเทศมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ,มาตรการด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล การนำค่าใช้จ่ายในการซื้อ หรือเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผลิตในประเทศมาลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ รวมถึง ขยายเพดานค่าใช้จ่ายที่หักได้ให้เพิ่มมากขึ้น มาตรการด้านสินเชื่อ การผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อสำหรับกู้ซื้อรถ โดยอนุญาตให้สามารถกู้ร่วมและพิจารณารายได้รวมของทั้งครอบครัวในการประเมินการปล่อยสินเชื่อได้ รวมถึงมาตรการค้ำประกันสินเชื่อในการซื้อรถยนต์ เป็นต้น

มาตรการกระตุ้นยอดขายและส่งออกในระยะกลาง – ยาว  อาทิ รักษาการเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วน สำหรับรถยนต์ ICE ที่สำคัญของโลก และส่งเสริมการผลิต Future ICE เพื่อรักษา Economy of Scale ให้สามารถแข่งขันได้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ด้วยการเร่งเจรจา FTA กับกลุ่มประเทศที่ยังมีความต้องการรถยนต์สันดาปภายในอยู่  รวมถึง หามาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนในกลุ่ม Future ICE เช่น Product Champion, HEV หรือ PHEV ,ยกระดับอุตสาหกรรมชิ้นส่วน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ยานยนต์สมัยใหม่ ผ่านกลไกการ Matching บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยกับต่างชาติ เพื่อเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ และต่อยอดสู่ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (Power Electric Parts) รวมทั้ง ฝึกอบรมแรงงาน เพื่อเข้าสู่ยานยนต์สมัยใหม่เพื่อเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ต่างๆ และ ขยายการส่งออกยานยนต์ประเภท ZEV (Zero Emission Vehicle) ไปยังประเทศที่มีศักยภาพ พร้อมเร่งรัดการเจรจาข้อตกลง FTA โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศที่มีนโยบายส่งเสริมการใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อมีสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง
  • สมาคมอุตสาหกรรมฯ คาดการณ์ตัวเลขผลิตรถยนต์ไทย  ทะลุ  1.9 ล้านคัน สมาคมอุตสาหกรรมฯ คาดการณ์ตัวเลขผลิตรถยนต์ไทย ทะลุ 1.9 ล้านคัน
  •  

Breaking News

รัฐบาลยันคุม‘โควิด’อยู่ ย้ำเคร่งครัด 5 มาตรการป้องกัน สกัดแพร่เชื้อ

‘อนุสรณ์’ชี้ปม‘แพทยสภา’ไม่กระทบรัฐบาล ดักคออย่าฉวยโอกาสปลุกม็อบ

เมียนมาทิ้งบอมบ์! ถล่มโรงงานแร่คาเรนนี ทัพกะเหรี่ยงรุกกลับตีค่ายทหารยับ

เปิดปูม‘วิทยา กันส์แทคติกส์’ ปรมาจารย์อาวุธปืน ผู้เซฟชีวิต‘ครู’ชายแดนใต้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved