นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2568 มีทั้งสิ้น 129,909 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568  ที่ 12.49  % แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ที่ 6.09  % เพราะผลิตส่งออกลดลง 9.36 % โดยการผลิตรถยนต์นั่งลดลงถึง 51.18 %เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่นของรถยนต์นั่ง แต่ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 35.01 % เพราะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น แต่ผลิตรถกระบะลดลง 29.32 % ตามยอดขายรถกระบะยังคงลดลง โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 352,499 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567  ที่  14.88 % และ ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 153,193 คัน ลดลงช่วงเดียวกันของปีก่อน  6.45  %

ทั้งนี้เดือนมีนาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 83,217 คัน เท่ากับ 64.06 % ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ที่ 9.36  % ส่วนเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 236,796 คัน เท่ากับ 67.18 % ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.48 %  ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 46,692 คัน เท่ากับ 35.94  % ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567  ที่ 0.36  % และเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ 115,703 คัน เท่ากับ 32.82 % ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.62 %

ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 55,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568  ที่ 13.15 % และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ที่  0.54 % จากรถกระบะที่ยังคงขายลดลง 7.84 %  เพราะการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง  โดยรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มียอดขาย 34,685 คัน เท่ากับ  62.16 % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 2.83 %  หากแยกตามประเภทรถ พบว่ารถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE)  มียอดขาย 13,770 คัน เท่ากับ 24.68 % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 15.13 %  รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 8,179 คัน เท่ากับ 14.66  % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 77.23 %   รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 705 คัน เท่ากับ 1.26 % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 250.75 %  รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,031 คัน เท่ากับ 21.56  % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 5.18 %

ส่วนยอดขายรถกระบะมีจำนวน 14,941 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 7.84 % รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 54 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 3,360 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว  2.21 % รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,472 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 6.95 % และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,286 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.81 %

ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนมีนาคม 2568 ส่งออกได้ 80,914 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 0.50 % และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ที่  14.91 % เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่น และจากการเข้มงวดในการลดการปล่อยคาร์บอนของบางประเทศและการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกของจีนในบางประเทศคู่ค้า จึงส่งออกลดลงในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตามส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมีนาคม 2568

ทั้งนี้เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 12,570 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้ว 4.92  %  เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  38,165 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.13  %  ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมีนาคม 2568 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,038 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้ว 132.65 % และ เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  4,132 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 52.47  %

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV มียอดจดทะเบียนสะสม ทั้งสิ้น 258,982 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 60.51 %   ส่วนยานยนต์ไฟฟ้า  ประเภท HEV  มียอดจดทะเบียนสะสมทั้งสิ้น 507,224 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่  32.99  %  และยานยนต์ไฟฟ้า ประเภท PHEV มียอดจดทะเบียนสะสม ทั้งสิ้น 67,270 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 18.76  %