ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังได้ได้จัดงาน“MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2568 ณ Hall 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. โดยมีคอนเซ็ปต์ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต บอกกล่าวเล่าเรื่องเหตุการณ์สำคัญ เช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง Covid-19 กระทรวงการคลังแก้ปัญหาหรือการพัฒนาประเทศ รองรับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกผันผวนจากทรัมป์ 2.0 โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกล่าวเปิดงาน
ทั้งนี้มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ร่วมจัดกิจกรรมครั้งนี้ อาทิ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น 150 ปี วงเงิน 300 ล้านบาท อายุ 15 ปี หน่วยละ 1 ล้านบาท ให้ดอกเบี้ย 3.15% จำกัดการซื้อคนละ 2 ล้านบาท นับว่าเพียง 1 ชั่วโมงกว่า วงเงิน 300 ล้านบาท ขายหมด ขณะที่ธนาคารของรัฐหลายแห่งได้ออกบูธภายในงานนี้ด้วยโดยนำเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ เงินฝากดอกเบี้ยสูง การให้ความรู้เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การปิดหนี้ด้วยเงื่อนไขพิเศษ กิจกรรมบันเทิง สันทนาการ การจำหน่าย ธนบัตรราคา 100 บาท และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกหน้าเหรียญ 50 บาท รวมจำหน่ายชุดละ 270 บาท จัดผ้ายันต์พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ เปิดให้เช่าบูชาผืนละ 99 บาท รวมถึงของที่ระลึกพิเศษสำหรับผู้มาร่วมงาน แจกให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทุกวันๆ ละ 100 ชุด
ด้านธนาคารออมสิน จัดโปรโมชันเงินฝากเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับงานนี้เท่านั้น เริ่มต้นด้วยเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 150 วัน อัตราดอกเบี้ยแบบ Step up เฉลี่ย 2.55% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.00% ต่อปี จองสิทธิภายในงาน จำนวนจำกัด วันละ 150 สิทธิ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) นำเสนอสลากออมทรัพย์ ธอส.ชุดนาคราช 2 หน่วยละ 1,000 บาท อายุสลาก 3 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.75% ต่อปี ลงทุนเพียง 1 แสนบาท รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.47% ต่อปี และหากลงทุน 1 ล้านบาท รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.59% ต่อปี โดยมีรางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 3 ล้านบาทต่อหมวด พร้อมรางวัลอีกมากมายทุกเดือน รวม 36 ครั้ง และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำเสนอบริการทางการเงิน พร้อมโปรโมชันพิเศษเพื่อผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะธุรกิจที่มีกระบวนการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมเปิดตัวคลินิกผู้ประกอบการ (EXIM Export Clinic) ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ ทั้งผู้นำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ บรรเทาผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ต่อผู้ประกอบการไทย
ด้าน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมออกบูธให้คำปรึกษา SMEs ใน งานนี้เช่นกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ตอกย้ำ 2 ภารกิจหลัก คือ “พร้อมค้ำ” ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ด้วยกลไกค้ำประกันของ บสย. โดยมีผลิตภัณฑ์ค้ำประกันที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ฟรี! ค่าธรรมเนียมสูงสุด 4 ปี ค้ำประกันสูงสุด 10 ปี ขณะที่กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ร่วมออกบูธนิทรรศการหมายเลข 31 เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีตลอดทั้งงาน โดยจัดแสดงข้อมูลด้านการออม และสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก พร้อมกิจกรรมพิเศษให้ร่วมสนุก อาทิ การจำลองการเล่น “สลาก กอช.” ภายใต้แนวคิด “ซื้อหวยเงินไม่หาย” ส่วนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ออกบูธ “หมายเลข 24” ให้บริการทางการเงินคู่การพัฒนาแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยจัดโปรโมชันสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน ครอบคลุมทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย พิเศษเมื่อยื่นขอสินเชื่อภายในงาน และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท นอกจากนั้น มอบบริการโปรแกรมยกระดับธุรกิจครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม "DX by SME D Bank" ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี