วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff  ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูง

กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูง

วันอังคาร ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 09.29 น.
Tag : กรุงไทย ธนาคาร นักวิเคราะห์ สถาบันการเงิน Krungthaicompass
  •  

กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

นาย กฤษฏิ์ ศรีปราชญ์ Krungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม   สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย


ปรับลดอัตราดอกเบี้ย จากผลกระทบจาก tariff ที่คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มต่ำกว่าคาด ขณะที่ภาวะการเงินที่ยังตึงตัว กนง. มีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี ในการประชุมครั้งที่ 2/2568 ลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน โดยมีสาระสำคัญดังนี้

ความเสี่ยงด้านต่ำของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย จากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลักนำไปสู่การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปัจจุบันยังอยู่ในระยะเริ่มต้นที่ความไม่แน่นอนสูงมาก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ชะลอตัวกว่าที่คาดจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง มองไปข้างหน้า นโยบายการค้าโลกจะเริ่มส่งผลกระทบชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป

กนง. ได้วิเคราะห์ผลกระทบภายใต้ 2 scenario

Reference Scenario (Lower Tariffs): การเจรจายืดเยื้อและล่าช้า โดยสหรัฐฯ มีการผ่อนผัน Reciprocal Tariff ให้กับคู่ค้าเป็นระยะ รวมถึงผ่อนผันอัตราภาษีให้กับจีนตั้งแต่ Q3/2568 เศรษฐกิจไทยปี 2025 อาจขยายตัวร้อยละ 2.0

Alternative Scenario (Higher Tariffs): สถานการณ์ที่ทุกประเทศเจรจาลดภาษีได้ครึ่งหนึ่งของ Reciprocal Tariff ตั้งแต่ Q3/2568 และเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเข้าสู่ Technical Recession ในปีนี้   เศรษฐกิจไทยปี 2568 อาจขยายตัวเพียงร้อยละ 1.3 ภาวะการเงินของไทยยังคงมีความตึงตัว สะท้อนจากสินเชื่อที่ยังหดตัวแม้จะมีสัญญาณ การทรงตัวโดยข้อมูล ณ ก.พ. 68 สินเชื่อรวม (ไม่รวมภาครัฐ) หดตัว -0.5% โดย SMEs สินเชื่อยังตงหดตัวที่ -3.0% ด้านคุณภาพสินเชื่อธุรกิจทรงตัว สะท้อนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังอ่อนแรง

นอกจากนี้ กนง. แสดงความกังวลถึงความเสี่ยงที่อาจเพิ่มขึ้น จากการที่นโยบายการค้าโลกสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อฐานะการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจาก Tariff ของสหรัฐที่จะปรับสูงขึ้นมากหากการเจรจาการค้าของไทยไม่บรรลุผล

ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. ประเมินว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากปัจจัยด้านอุปทานโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐเป็นสำคัญ โดยราคาน้ำมันดูไบปรับลดลงจากประมาณการรอบก่อน โดยในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 71 USD/bbl ใน Reference Scenario และ 68 USD/bbl ใน Alternative Scenario

ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทรงตัว และเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย อย่างไรก็ดี กนง. ประเมินว่านโยบายกีดกันทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่การผลิตโลกอาจส่งผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า

Krungthai COMPASS คาด กนง. อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมสู่ระดับ 1.50% จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบรุนแรงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ โดยมองว่าช่วงเวลาของการตัดสินนโยบายครั้งต่อไป กนง. จะพิจารณาจากพัฒนาการของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการของเศรษฐกิจไทย เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดจาก policy space ที่มีจำกัด

โดยการประชุมครั้งต่อไปช่วงปลายเดือน มิ.ย. หาก กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีกครั้ง จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง 3 การประชุมเช่นเดียวกับช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินโลก 2008 ( GFC ) และโควิด-19 ในระยะข้างหน้าต้องติดตามช่วงเวลาและขนาดของการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ของ กนง. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท หลังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยไทยมีทิศทางต่ำลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ (Fed) ยังไม่ความไม่แน่นอนจากผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าที่อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นอีกครั้ง  โดยเงินบาทในช่วงนับตั้งแต่การเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. 2024 มีทิศทางแข็งค่าสูงกว่าประเทศในภูมิภาค โดยเป็นรองเพียงญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์

- 030 

 

 

               

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • BBLผสานศักยภาพธ.เพอร์มาตา คว้าโอกาสจากศก.อินโดฯที่กำลังขยายตัว BBLผสานศักยภาพธ.เพอร์มาตา คว้าโอกาสจากศก.อินโดฯที่กำลังขยายตัว
  • ค่าเงินบาทประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ค่าเงินบาทประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
  • ธอส. จัดโปรสุดคุ้ม ในงาน Thailand Smart Money ระยอง ธอส. จัดโปรสุดคุ้ม ในงาน Thailand Smart Money ระยอง
  • ค่าเงินบาทประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ค่าเงินบาทประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2568
  • ธอส. ปล่อย อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงล้านละ 4,400 บาทต่อเดือน เท่านั้น! ธอส. ปล่อย อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงล้านละ 4,400 บาทต่อเดือน เท่านั้น!
  • LH Bank จับมือ Sertis และ AWS พัฒนา “LISA” (ไลซ่า) แชทบอทอัจฉริยะ LH Bank จับมือ Sertis และ AWS พัฒนา “LISA” (ไลซ่า) แชทบอทอัจฉริยะ
  •  

Breaking News

ชมสด! งานแถลงข่าว FAST AUTO SHOW THAILAND 2025

ฝนถล่ม'หนองคาย'ตลอดคืน น้ำท่วมขังหลายจุด-รถสัญจรลำบาก

'ปานเทพ'แจงยอดบริจาค 30 ล้าน เช็กเลยเงินไปไหนบ้าง!!

อย่าเสี่ยงเลย! 'นิพิฏฐ์'เตือน'อิ๊งค์'หยุดปฏิบัติหน้าที่'ทุกตำแหน่ง'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved