ถ้าต้องการเลือกซื้อรถยนต์เอนกประสงค์สักคัน ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ จะเป็นแบรนด์    ที่หลายคนนึกถึง อันดับต้นๆ ด้วยรูปโฉมหรูหรา มาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่น ของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮ บริด e:HEV ที่ให้แรงบิดสูง และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ประหยัดอย่างเหนือชั้น เหมาะกับการขับขี่ระยะทางไกลๆ ได้อย่างสะดวกสบาย และไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมน้ำมันบ่อยๆ

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่  ถูกอัปเกรดดีไซน์ภายนอก ให้มีความสปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะรุ่น e:HEV RS  ที่มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต ดีไซน์ไฟท้าย แบบ Full LED พร้อมหลังคาสีดำทูโทน และล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว  ยิ่งทำให้รถดูโดดเด่นและมีเสน่ห์มากขึ้น  ส่วนภายในออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ รวมถึง ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว แบบAdvanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ไปจนถึง ช่องเชื่อมต่อ USB-C และ USB-A ที่เพียงพอสำหรับทุกความต้องการของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้ง ช่องปรับอากาศตอนหลังในทุกรุ่นย่อย

ขณะที่ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า แบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมท อยู่ห่างจากตัวรถ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ลำโพงสูงสุด 8 ตำแหน่ง ระบบ ล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ และเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Honda CONNECT เพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ และรถยนต์

สำหรับ สมรรถนะการขับขี่ คงต้องยกให้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ความแรงของมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร ถือว่าให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ทั้งในเมืองและนอกเมือง แถมยังช่วยลดการใช้น้ำมันได้อย่างมาก โดยตามเสปกอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 25.6 กม./ลิตร  สามารถเดินทางไกลกว่า 800 กม. ด้วยน้ำมันเพียงแค่หนึ่งถัง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถยนต์ไฮบริด ในตลาดตอนนี้

ช่วงการทดสอบผู้เขียนใช้เส้นทาง จากกรุงเทพฯ โดยมีจุดหมายปลายทาง สนามช้างฯ เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์  เจ้าฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่  สมรรถนะโดยรวมดีมาก  ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มีจุดเด่น อยู่ที่การปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อย่างชาญฉลาด ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า   2 ตัว จากทั้งมอเตอร์ ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า  และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ ขับเคลื่อนล้อ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน พละกำลังแรงจัด ช่วงขึ้นทางด่วน M6 ทางตรงๆ ยาวๆ กดคั่นเร่งเพลินๆ ทะลุไปกว่า 140 กม./ชม  อัตราเร่งดีมาก ออกตัวได้รวดเร็วทันใจ สมรรถนะเทียบเท่ารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์มากกว่า 2.0 ลิตร กันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Drive Mode ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่  ECON Mode-โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่ เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น Normal Mode-โหมดการขับขี่แบบปกติ และ Sport Mode-โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น

และด้วยความโดดเด่นจากการทำงาน ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนเป็นหลัก และเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ปั่นไฟส่งเข้าสู่มอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนล้อในช่วงการขับขี่ ด้วยความเร็วต่ำถึงปานกลาง ในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่ ระบบจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขณะที่ระบบช่วงล่าง และพวงมาลัย ปรับเซ็ตใหม่ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ และความมั่นคงที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น

ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีความปลอดภัยและการขับขี่อื่น ๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเติมใหม่  อาทิ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ระบบเตือนและช่วยควบคุม เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน  พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่   เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่  รุ่น RS  เป็นรถที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ด้วยสมรรถนะ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน สำหรับราคาจำหน่าย 1,179,000 บาท ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ!!