nn ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือนเมษายน ที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 13 เดือน...ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนลดลง ปัจจัยหลักมาจากการหดตัวลงของระดับราคาสินค้าในหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวลง และความต้องการใช้น้ำมันของโลกที่ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าต่างๆ
ขณะที่ระดับสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.63% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ 2.35% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และกลุ่มอาหารสำเร็จรูปเมื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงเทียบรายเดือน
หลายสำนักวิจัย ต่างคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสองของปีนี้มีแนวโน้มอ่อนแอลง และราคาน้ำมันซึ่งอาจลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก จะเป็นปัจจัยลดทอนเงินเฟ้อ โดยเมื่อลองตัดผลของราคาสินค้าผันผวนออกไป เงินเฟ้อพื้นฐานของไทยอยู่ในระดับต่ำ เทียบกับกลุ่มประเทศในเอเชีย ทั้งเวียดนามอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้....ส่งสัญญาณได้ว่าเงินเฟ้อไทยขาดแรงส่งด้านกำลังซื้อในการขับเคลื่อนราคาสินค้า ต่างจากกลุ่มประเทศอื่นข้างต้นที่มีแรงส่งจากกำลังซื้อภายในประเทศอยู่
นอกจากนี้ เงินเฟ้อไทยถูกกดดันจากด้านอุปทาน ที่ราคาพลังงานต่ำกว่าปีก่อน ทั้งนี้ ระดับราคาพลังงานอาจต่ำลงอีก จากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และนโยบายเศรษฐกิจของประเทศหลักที่ไม่ชัดเจน ซึ่งส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงอีก กดดันอุปสงค์ในตลาดโลกซึ่งสอดคล้องกับมุมมองล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่มองเงินเฟ้อไทยมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายที่ 1% เป็นผลจากหมวดพลังงานเป็นหลัก
ทั้งนี้ Krungthai COMPASS (ฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์ ของธนาคารกรุงไทย) มองว่าการติดลบของเงินเฟ้อครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากระดับราคาสินค้าและบริการยังปรับลดลงไม่กระจายวงกว้าง (Broad-based) และปัจจัยของการปรับลดลงมาจากฝั่งราคาพลังงานซึ่งต่ำกว่าปีก่อน โดยเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามผลจากการทะลักของสินค้าจีนที่เข้ามารุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย โดย Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่0.7% จากผลของฐานราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่แผ่วลงและผลของสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี