นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม2568 ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการพาณิชย์ลดราคาปุ๋ยเคมีเพื่อเกษตรกร ปี 2568 ณ สหกรณ์การเกษตรบาง น้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้เปิดเผยว่า โครงการฯ ได้รับความสนใจและการตอบรับจากเกษตรกรเป็นอย่างดี ผลดำเนินโครงการฯ ล่าสุด เกษตรกรให้ความสนใจสั่งซื้อปุ๋ยแล้วกว่า 1 ล้านกระสอบ
โดยปุ๋ยที่นำมาลดราคาในครั้งนี้ ครอบคลุมพืชทุกชนิด ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชสวน ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะปุ๋ยที่เป็นสูตรสำคัญที่ใช้ในนาข้าว เช่น 46-0-0, 0-0-60, 16-20-0 และ 15-15-15 สามารถสั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก อาทิ กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. วิสาหกิจชุมชน ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน โดยสถาบันเกษตรกรจะเป็นผู้รวบรวมยอดสั่งซื้อ และประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกไปยังพื้นที่ของเกษตรกร
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์) ผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ยเคมี จำนวน 26 บริษัท จาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรลดราคาปุ๋ยเคมีจำนวน 79 สูตร ครอบคลุมพืชทุกชนิด ส่วนลดเฉลี่ยกระสอบละ 20-50 บาท รวมปริมาณ10.06 ล้านกระสอบ (503,000 ตัน) เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน จนถึง 30 กันยายน 2568
นายวรวงศ์ กล่าวว่า สำหรับสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว ได้สั่งซื้อปุ๋ยใน โครงการฯ ไปแล้วกว่า 200,000 กระสอบ โดยเป็นสูตรที่ใช้กับนาข้าว เช่น 46-0-0, 0-0-60, 16-20-0 และ15-15-15 เป็นต้น และมีแผนที่จะสั่งซื้อเพิ่มเติมอีก ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนในการผลิตให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ระดับหนึ่ง และขอเชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมสั่งซื้อในโครงการ เพื่อเป็นการลดภาระต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูเพาะปลูกที่กำลังจะมาถึงนี้เกษตรกรที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.dit.go.th รวมถึงพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด และสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ และสั่งซื้อปุ๋ยในโครงการผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก
“วันนี้ได้มาเยี่ยมชมศูนย์เจียไต๋เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว เป็นศูนย์ที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรในการทำงานอย่างมืออาชีพ ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น โดรนทางการเกษตร และเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อพัฒนาชาวนาไทยสู่การเป็นชาวนามืออาชีพ ซึ่งเห็นว่าศูนย์แห่งนี้จะเป็นศูนย์เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร และช่วยปรับเปลี่ยนการเกษตรแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นอาชีพที่มั่นคงและดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้กลับมาเกษตร พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในทุกมิติ อีกทั้งยังเป็นการผลักดันอนาคตของเกษตรกรไทยให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืน
จึงขอขอบคุณภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างยิ่ง”นายวรวงศ์กล่าว
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี