วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
‘บางกอกเคเบิ้ล’ ตั้งเป้าปี 68 กวาดรายได้ 1.9 หมื่นล้าน

‘บางกอกเคเบิ้ล’ ตั้งเป้าปี 68 กวาดรายได้ 1.9 หมื่นล้าน

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.48 น.
Tag : พลังงานสะอาด พลังงาน สายไฟ บางกอกเคเบิ้ล โซลาร์ สายเคเบิล
  •  

นายพงศภัค นครศรี ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทคาดจะเติบโต 20-30% สร้างรายได้อยู่ที่ 19,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 16,600 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจไทยจะประสบภาวะชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญความผันผวนจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทจะเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ และเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผ่านการลงทุนเพิ่มปีนี้ 100 ล้านบาท

นายพงศภัค กล่าวว่า ปัจจุบัน บางกอกเคเบิ้ล มีพนักงานกว่า 1,250 คน มีโรงงานผลิตสายไฟทั้งสิ้น 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานสมุทรปราการ โรงงานฉะเชิงเทรา และOperation and Innovation Center ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงงานฉะเชิงเทรา รวมพื้นที่โรงงานฉะเชิงเทราทั้งหมดกว่า 251 ไร่ มีกำลังการผลิตสายไฟกว่า 60,000 ตันต่อปี ครอบคลุมผลิตภัณฑ์มากกว่า 80 ชนิด รวมถึงมีโซลูชั่นปรับแต่งเฉพาะตามความต้องการ นับเป็นพอร์ตฟอลิโอที่กว้างที่สุดในประเทศไทย รองรับความต้องการทุกกลุ่มลูกค้าถึง 7 กลุ่มการใช้งาน


“นับจากช่วงสิ้นปี 2565 หรือช่วงปลายเหตุการณ์ COVID-19 กำลังการผลิตรวมของเราเติบโตขึ้นมากกว่า 30% ต่อปี และครองตำแหน่งผู้ผลิตสายไฟรายใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศ โดยในปี 2567 เราส่งมอบสายไฟไปทั้งสิ้นกว่า 50,000 ตัน หรือคิดเป็นความยาวสายไฟรวมกว่า 400,000 กิโลเมตร สะท้อนถึงการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง” พงศภัค กล่าว

โรงงานที่ฉะเชิงเทรา ถือเป็นโรงงานผลิตหลักที่มีกระบวนการผลิตครอบคลุมทุกขั้นตอน มีคุณภาพและมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยกว่าจะมาเป็นสายไฟที่ใช้ในพื้นที่ต่างๆ ต้องผ่านกระบวนการผลิตหลักๆ ถึง 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1.การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง (Raw Materials Selection) 2.การหลอมโลหะ (Copper & Aluminium Rod Production) 3.การตีเกลียว (Standing Process) 4.การหุ้มฉนวน (Insulation Process)5.การรวมแกน (Multicore Assembly) 6.การเสริมความแข็งแรงและความปลอดภัย (Protection Enhancements) 7.การหุ้มเปลือกนอกและพิมพ์แบรนด์ (Sheathing & Label) ทั้ง 7 ขั้นตอนล้วนผ่านความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกนำเข้าทองแดงจากแหล่งผลิตทองแดงของโลกอย่างออสเตรเลียและชิลี เป็นต้น จนถึงการตรวจสอบสายไฟคุณภาพทุกเส้นอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ บางกอกเคเบิ้ล ถือเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกในหลายๆ ด้านที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน อาทิ การเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งห้องปฏิบัติการทดสอบสายไฟภายใต้สภาวะเผาไหม้ (Fire Testing Lab) แห่งแรกของประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐาน มอก. 17025 (ISO/IEC 17025) ถือเป็นก้าวสำคัญในฐานะผู้บุกเบิกมาตรฐานการทดสอบและรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์สายไฟในอุตสาหกรรมไทย พร้อมยกระดับสู่มาตรฐานสากล ล่าสุด บริษัทยังได้จัดตั้ง ห้องปฏิบัติการสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ (Extra High Voltage Lab) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทดสอบสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ 230 kV ซึ่งเป็นสายไฟที่ใช้กับโครงสร้างพื้นฐานและเมกะโปรเจกต์ต่างๆ

นายพงศภัค กล่าวว่า ห้องปฏิบัติการนี้ สามารถจำลองการใช้งานไฟฟ้าระดับ 700 kV และกระแสสูงถึง 6,000 A ได้ เพื่อให้มั่นใจว่าสายไฟที่ผลิตออกไป มีความแม่นยำและปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม โดยเราคือผู้ผลิตคนไทยแห่งเดียวของประเทศที่มีห้องปฎิบัติการทดสอบนี้ และเรายังคงผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการทำงานภายในโรงงานของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนโรงงานของเราสู่ Smart Factory 4.0”

นอกจากนี้บริษัทยังใส่ใจเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นผู้บุกเบิกรายแรกๆในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดด้วยการก่อตั้ง บริษัท บางกอก โซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด บริษัทในเครือ เพื่อบุกเบิกและพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดของประเทศ โดยได้ดำเนินการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของประเทศไทย ภายในพื้นที่โรงงานฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. 2549 และปัจจุบันได้ขยายการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ภายในพื้นที่โรงงานจนมีปริมาณโซลาร์ที่ครอบคลุมกว่า 50% ของกำลังการผลิตของทั้ง 3 โรงงาน ซึ่งตอบโจทย์บริษัทที่เดินหน้า “เซฟคน เซฟเมือง เซฟสิ่งแวดล้อม” และสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของบริษัทในการเชื่อมโยงประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย

นายพงศภัค  กล่าวว่า ปัจจุบัน บางกอกเคเบิ้ล มีสายไฟครอบคลุมทั้งสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ สายไฟฟ้าแรงดันปานกลาง สายไฟฟ้าแรงดันสูง สายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ สายเปลือย สายโซลาร์เซลล์ สายคอนโทรลและสายสัญญาณ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์สายทนไฟ ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งานที่เน้นความปลอดภัยและรองรับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

สำหรับ บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ.2507 ให้บริการครอบคลุม 7 กลุ่มการใช้งาน ได้แก่ 1.ระบบผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า (Transmission) 2.ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (Distribution) 3.ระบบไฟฟ้าภายในบ้านพักและอาคาร (Construction and Building) 4.ระบบขนส่งและคมนาคม (Transportation and Mobility) 5.ระบบไฟฟ้าในโรงงาน และภาคอุตสาหกรรม (Industrial) 6.พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และ7.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ (Automotive) เพื่อสร้างความปลอดภัยและขับเคลื่อนเมืองสู่อนาคต

นายพงศภัค กล่าวว่า ปัจจุบัน มีลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่ใช้สายไฟฟ้าของบางกอกเคเบิ้ล อาทิ โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 โครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออก และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากนี้ บริษัท มีส่วนสนับสนุนโครงการ ASEAN Power Grid โดยเฉพาะโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง (Luang Prabang Hydropower Project) ในประเทศลาว

-031

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘เวฟ บีซีจี’ บุกขยายฐานลูกค้าอุตฯท่องเที่ยว- การบิน ‘เวฟ บีซีจี’ บุกขยายฐานลูกค้าอุตฯท่องเที่ยว- การบิน
  • เด็กซ์ซอน รายได้ Q1 โต 7%  มั่นใจทั้งปีทะลุเป้า 900 ลบ. เด็กซ์ซอน รายได้ Q1 โต 7% มั่นใจทั้งปีทะลุเป้า 900 ลบ.
  • เอ็น.ดี. รับเบอร์ปักธงรุกธุรกิจพลังงานสะอาด เอ็น.ดี. รับเบอร์ปักธงรุกธุรกิจพลังงานสะอาด
  • WHAUP เผยธุรกิจ Solar ดันไตรมาสแรกกำไร 228 ล้านบาท WHAUP เผยธุรกิจ Solar ดันไตรมาสแรกกำไร 228 ล้านบาท
  • บีโอไอส่งเสริมพลังงานสะอาด โอกาสที่มาพร้อมกับความยั่งยืน บีโอไอส่งเสริมพลังงานสะอาด โอกาสที่มาพร้อมกับความยั่งยืน
  • ‘บางกอกเคเบิ้ล’ ชี้เป้า 5 จุดต้องตรวจเช็คหลังแผ่นดินไหว ‘บางกอกเคเบิ้ล’ ชี้เป้า 5 จุดต้องตรวจเช็คหลังแผ่นดินไหว
  •  

Breaking News

เปิดคลิปนาที! 'ลุงป้อม'เดินพลาดตกบันไดวัดโพธิ์ หลังกลับจากทำบุญ

‘ภูมิธรรม’ดันสร้างเขื่อนกรองสารพิษ ‘แม่น้ำกก-สาย’ ป้องกันปัญหาในระยะยาว

'ไอ้มุ้ย'แฟนหนุ่ม'สาวน้ำ'มือสั่ง 5 สมุนอุ้มสังหาร'ดีเจเตเต้'เขาคือใคร?

‘พันธุ์ใหม่’เสียงอ่อย! ‘นันทนา’รับล่ารายชื่อ‘สภาสูง’ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 10 คน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved