นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวดไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทแม่อยู่ที่ 80.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 76.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2,411% สาเหตุการเพิ่มขึ้นของกำไรส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้หลักของกิจการและการลดลงของ ECL โดยบริษัทมีรายได้รวม 548.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 55.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.23% เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาคน

ส่วนยอดจัดเก็บหนี้ไม่มีหลักประกันมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยอดจัดเก็บหนี้ในเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม อยู่ที่ 63.50, 55.95, 57.38 ล้านบาท ในขณะที่ยอดจัดเก็บในเดือนเมษายน อยู่ที่ 58.12 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดจัดเก็บในแต่ละไตรมาสของหนี้ไม่มีหลักประกันในปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท ในแต่ละไตรมาส หนุนผลการดำเนินงานในปี 2568 โตต่อเนื่องจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20%

ปัจจุบันหรือ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทบริหารหนี้รวมอยู่ที่ประมาณ  104,920 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้มีหลักประกันจำนวน 19,348 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.44% และหนี้ไม่มีหลักประกันจำนวน 85,572 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81.56% และบริษัทยังคงประมูลหนี้เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้อาจเน้นหนักไปที่หนี้ไม่มีหลักประกันเป็นหลัก

นายสุขสันต์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ฟื้นตัวชัดเจน โดยข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 ระบุว่า หนี้ครัวเรือนรวมของประเทศอยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท สิ่งที่น่าจับตาคือ “กลุ่มหนี้เสียต่ำกว่า 1 แสนบาท” ซึ่งมีจำนวน 3.28 ล้านคน 4.44 ล้านบัญชี รวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของ NPL ทั้งระบบ ทั้งนี้ ภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อช่วยลดภาระหนี้ โดยขยายระยะเวลารับสมัครจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งมีส่วนช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในระยะสั้น

ขณะเดียวกัน CHAYO เตรียมพร้อมรับโอกาสจากการที่สถาบันการเงินเร่งขายหนี้ด้อยคุณภาพออกจากระบบ โดยคัดเลือกพอร์ตที่มีศักยภาพ รักษาประสิทธิภาพการจัดเก็บ และควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างรัดกุม เพื่อคงระดับ ECL ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการหาโอกาสในการร่วมมือกับภาครัฐ ในการบริหารหนี้ภาคประชาชน ที่รัฐบาลตั้งใจซื้อออกมา

โดย CHAYO ยังคงตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน ซึ่งบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,093 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 241 ล้านบาท โดยนอกจากรายได้จากพอร์ตบริหารหนี้ บริษัทยังเล็งเห็นโอกาสจากการจำหน่ายทรัพย์ NPA โดยเฉพาะที่ดินแปลงศักยภาพสูงบนเกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ที่เพิ่งประมูลได้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในช่วงต้นไตรมาส 3 นี้

-031