นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวสรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 1 ปี 2568 โดยระบุว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง ส่วนภาพรวมสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 1 ปี 2568 หดตัวอยู่ที่ 1.3 % จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยหลักจากการชำระคืนหนี้ที่อยู่ในระดับสูง สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ยังขยายตัว ขณะที่สินเชื่อธุรกิจ SMEs และสินเชื่ออุปโภคบริโภคหดตัวต่อเนื่อง ตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่ยังอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ยอดคงค้างสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไตรมาส 1 ปี 2568 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 548.1 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.90 % โดยหลักจากสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสัดส่วน NPL ของสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลของฐานสินเชื่อที่ลดลง สำหรับสินเชื่อ Stage 2 ( ลูกหนี้ที่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันที่ครบกำหนดชำระ) ปรับลดลง โดยหลักจากการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ส่งผลให้สัดส่วน stage 2 ทรงตัวอยู่ที่ 6.97 % อย่างไรก็ตามธนาคารพาณิชย์ยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริหารจัดการคุณภาพหนี้ สำหรับผลการดำเนินงานปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลง (ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงซึ่งเป็นปัจจัยฤดูกาลในไตรมาสก่อนและค่าใช้จ่ายด้าน IT) และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (เงินลงทุนและการวัดมูลค่าตราสารทางการเงิน) ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะการเงินที่ยังตึงตัวและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีภาระหนี้สูง รวมถึงธุรกิจและครัวเรือนที่อาจได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมต่อฐานะการเงินจากผลกระทบของนโยบายการค้าโลก ตลอดจนติดตามผลสำเร็จของการให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการคุณสู้เราช่วย โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 4 ปี 2567 ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลง ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ลดลงตามการกู้ยืมผ่านตลาดตราสารหนี้เป็นสำคัญ ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมทรงตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน แต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า แม้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและภาคการผลิต แต่ภาคก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่ชะลอลง
อนึ่งจากการรายงานผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 รวม 11 แห่งมีรายได้รวมกันกว่า 251,663 ล้านบาท และผลกำไร 68,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 64,752 ล้านบาท โดยธนาคารพาณิชย์ที่ประกาศกำไรสุทธิสูงสุดนำโดย ธนาคารกสิกรไทยกำไรสุทธิ 13,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% ,ธนาคารกรุงเทพกำไรสุทธิ 12,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.90% เอสซีบี เอกซ์กำไรสุทธิ 12,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.82% ขณะที่ธนาคารที่มีผลกำไรสุทธิลดลงได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยากำไรสุทธิ 7,533 ล้านบาท ลดลง 0.12% ธนาคารทหารไทยธนชาตกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ลดลง 5.17% ทิสโก้กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 5.19% และเกียรตินาคินภัทรกำไรสุทธิ 1,061 ล้านบาท ลดลง 29.55%
ทั้งนี้ปัจจัยหลักๆที่กดดันผลการดำเนินของกลุ่มมาจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อทำให้โดยภาพรวมยังขยายได้ไม่มากนัก ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก และสถานการณ์โลกความไม่แน่นอนสูงในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี