SMPC เผย Q2 โตตามเป้า บุ๊คงบโค้งแรก มีกำไรกว่า 145 ล้าน โกยรายได้ 1,027 ล้าน

SMPC เผย Q2 โตตามเป้า บุ๊คงบโค้งแรก มีกำไรกว่า 145 ล้าน โกยรายได้ 1,027 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.25 น.

นางปัทมา เล้าวงษ์ รองประธานกรรมการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2568 คาดว่ามีการเติบโตดีกว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลคำสั่งซื้อในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม มีคำสั่งซื้อไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สนับสนุนภาพรวมผลงานครึ่งปีแรกของปี 2568 มีการเติบโตที่ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และเชื่อว่าปริมาณขายทั้งปีนี้จะทำได้ 7.7 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน

ล่าสุดประกาศผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 145.45 ล้านบาท ลดลง 8.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 154.29 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายลดลง อัตราการทำกำไรใกล้เคียงเดิม มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,026.51 ล้านบาท ลดลง 117.12  ล้านบาท หรือ 10.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,143.63 ล้านบาท เป็นผลจากปริมาณขายที่ลดลง 3.9% จากการชะลอตัวของลูกค้าในแถบแอฟริกาและเอเชีย ผลจากสถานการณ์เศรษฐกิจ ประกอบกับราคาเหล็กลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12% และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ทำให้ราคาขายลดลง


“ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว และความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าและนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกา  SMPC ยังคงรักษาความแข็งแกร่งทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมั่นคง แม้ว่าจะต้องเผชิญความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศจากนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% ตั้งแต่เดือนก.พ.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบต่อทุกประเทศที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มาตรการภาษีนี้มีผลกระทบต่อผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐฯ โดยตรง แต่เนื่องจากความต้องการสินค้าจากลูกค้าในสหรัฐฯ ยังคงมีสม่ำเสมอเพื่อทดแทนถังเดิมที่เสื่อมสภาพ ประกอบกับต้นทุนผลิตภายในประเทศสูง จึงส่งผลให้บริษัทยังคงรักษาคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯได้อย่างต่อเนื่อง ” นางปัทมา กล่าว

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯได้ดำเนินนโยบายขยายส่วนแบ่งทางการตลาดไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของประเทศคู่ค้ารายใหญ่ และกระจายฐานลูกค้าในแต่ละภูมิภาคที่มีความต้องการสินค้าในช่วงเวลาที่ต่างกัน และเพื่อป้องกันกรณีหากพื้นที่ขายใดมีปัญหา ก็จะมียอดขายจากพื้นที่อื่นมาชดเชย ทำให้รายได้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ราคาต้นทุนวัตถุดิบซึ่งเป็นเหล็กมีแนวโน้มลดลง  ส่งผลให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น รวมทั้งอัตราค่าระวางเรือในไตรมาสแรกของปีนี้ ก็ปรับลงเช่นกัน จากความไม่แน่นอนของนโยบายด้านการค้าของสหรัฐฯทำให้เกิดอุปทานส่วนเกิน  ในด้านการจัดการความเสี่ยงบริษัทได้มีการปรับนโยบายการขายบางส่วน โดยเน้นเสนอขายสินค้าแบบไม่รวมค่าขนส่ง และเสนอค่าขนส่งภายหลังเมื่อใกล้ถึงกำหนดส่งมอบ เพื่อลดความผันผวนจากต้นทุนค่าระวางเรือที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าใช้กลยุทธ์การเติบโตจากโครงสร้างรายได้ส่งออกที่แข็งแกร่งกว่า 90% พร้อมแนวทางบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนแบบ Natural Hedge และการใช้เครื่องมือทางการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ราคาวัตถุดิบเหล็กที่ลดลงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร ขณะเดียวกันบริษัทเฝ้าระวังต้นทุนค่าขนส่งที่อาจเพิ่มขึ้น และปรับกลยุทธ์ขายแบบ FOB เพื่อรองรับความผันผวน รวมถึงติดตามนโยบายการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และความเสี่ยง พร้อมแนวทางการรับมือเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top