นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน Thailand Rice Convention (TRC) 2025 ครั้งที่ 10 ว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเร่งผลักดันนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ผ่านการพัฒนาและส่งเสริมตั้งแต่ภาคการผลิต การนำเทคโนโลยีด้านการเกษตร(Agi-Tech) และเทคโนโลยีด้านอาหาร(Food Tech) มาใช้พัฒนาในกลุ่มอาชีพที่มีความเกี่ยวเนื่องกับภาคเกษตรกรรมทั้งหมดเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
โดยการผลักดันนโยบายดังกล่าว กระทรวงฯจะทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการผลิตข้าวให้เพียงพอกับความต้องการ และขยายโอกาสทางการค้าในตลาดใหม่ๆ ส่งเสริมข้าวคุณภาพหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวออร์แกนิก ข้าวคาร์บอนต่ำ ข้าว GI ข้าวคุณลักษณะพิเศษ รวมทั้งอาหารฮาลาล ตอบสนองตลาดที่มีกำลังซื้อสูง อาทิ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ตลอดจนชูนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ในการตอบสนองความต้องการของโลกด้านความมั่นคงทางอาหาร(Food Security)
ทั้งนี้งาน TRC 2025 จะเป็นโอกาสที่ไทยได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพของโลก โดยพันธมิตรจากทั่วโลกที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ ล้วนเป็นบุคคลสำคัญในวงการค้าข้าวโลก การประชุมจึงเป็นจุดเริ่มของการสร้างเครือข่าย สร้างพันธมิตรทางการค้า และเพื่อสร้างโอกาสให้มีการพบปะเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทยกับผู้นำเข้าข้าว รวมถึงผู้ค้าข้าว นำไปสู่การตกลงซื้อขายข้าว เพื่อรองรับผลผลิตข้าวไทย โดยหลังจากได้หารือผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของโลก คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 100,000 ตัน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนการส่งออกข้าวไทยในปี 2568 ยังมั่นใจว่าจะส่งออกได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 7.8 ล้านตัน
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ติดตามสถานการณ์ตลาดข้าวโลกอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่ และการประกาศใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่ไทยจะเป็นแหล่งอาหารโลก และเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารให้ประเทศคู่ค้าตามนโยบายรัฐบาล
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กล่าวว่า กรมฯได้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ TRC 2025 เป็นครั้งที่ 10 หลังจากที่ได้จัดครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยงานนี้มีความสำคัญที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวไทยและข้าวโลก จะได้กลับมากระชับความสัมพันธ์และพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็นระหว่างกัน โดยเฉพาะในประเด็นการผลิตและการตลาดข้าวยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสหลักในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความใส่ใจในสุขภาพและให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่และความยั่งยืนทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน จากทั้งในและต่างประเทศกว่า 30 ประเทศ ได้แก่ ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐบาลต่างประเทศ ผู้นำเข้าและส่งออกข้าว ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน รวมถึงชาวนาและเกษตรกรไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี