นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ที่สุดของโลก หลังพบการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) ในฟาร์มแห่งหนึ่งของประเทศบราซิล โดยระงับการนำเข้าเป็นเวลา 60 วัน ซึ่งส่งผลดีกับผู้ประกอบการส่งออกไก่ของไทย และคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดส่งออกไก่ไปจีนและยุโรป ในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 68 จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากปัจจัยหนุนราคาหมู ไก่ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง จากการบริหารจัดการด้านจัดซื้อวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือ ประกอบกับบริหารจัดการค่าขนส่งให้มีประสิทธิภาพ" นายเพชรกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากยอดขายร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” (Retail Shop) ซึ่งถือเป็น Flagship ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต โดยในปีนี้มีแผนสาขา Retail Shop เพิ่มเป็น 600 แห่ง รองรับความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มมาร์จิ้นให้ธุรกิจ

ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 บริษัทฯมีรายได้รวม 17,852.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,586.62 ล้านบาท หรือ 16.94% มีกำไรสุทธิ 2,036.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,862.91 ล้านบาท หรือ 1,072.43% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิ High record ของบริษัทฯ 

โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสุกรเวียดนามอยู่ในระดับสูง และปริมาณสุกรที่เวียดนามเพิ่มขึ้น ราคาสุกรไทยเพิ่มขึ้น ราคาไก่เพิ่มขึ้น ร้านค้าปลีกขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลงจากบริหารจัดการด้านการจัดซื้อวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือ ประกอบกับบริหารจัดการค่าขนส่งให้มีประสิทธิภาพ

ในส่วนของร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” (Retail Shop) ในไตรมาส 1/68 มีรายได้จำนวน 6,195.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.93% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนสาขาและรายได้ต่อวันต่อสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยในไตรมาส 1/68 มีสาขาจำนวน 430 สาขา เทียบสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 401 สาขา

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 3 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2568) ในอัตรา 0.075 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 กำหนดจ่ายวันที่ 11 มิถุนายน 2568

-031