กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการเจาะตลาดอาหารสัตว์ในตะวันออกกลาง เผยบริษัท Arabian Agricultural Services Company (ARASCO) ซึ่งเป็นผู้ค้าอาหารสัตว์รายใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง สนใจนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย เพื่อนำมาทดลองใช้ในสูตรอาหารสัตว์
โดยผู้ส่งออกไทยประสบความสำเร็จสามารถทำสัญญาซื้อขายมันอัดเม็ดล็อตแรกได้ในปริมาณ 20,000 ตัน ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูบานแรกในการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทยไปยังตลาดตะวันออกกลางได้สำเร็จ สร้างโอกาสครั้งสำคัญให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยทั้งระบบ
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งผลักดันขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังเพื่อยกระดับการค้าและพยุงราคามันสำปะหลังให้กับเกษตรกรเป็นผลสำเร็จ ซึ่งภายหลังจากการเดินทางไปเจาะตลาดซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 17-22 พฤษภาคม 2568 ปรากฏว่าบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลาง มีความสนใจในการทดลองใช้สินค้ามันสำปะหลังในสูตรอาหารสัตว์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปิดการเจรจาและทำสัญญาซื้อขายสินค้ามันอัดเม็ด ชนิด Hard Pellets กับบริษัท ARASCO ในล็อตแรกเป็นการนำร่องในปริมาณ 20,000 ตัน ในราคาที่ทั้ง 2 ฝ่ายพึงพอใจ กำหนดส่งมอบภายในเดือนสิงหาคม 2568 โดยจะนำเข้าผ่านท่าเรือดัมมาม (Dammam Port) ของซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยกับการใช้มันสำปะหลังในสูตรอาหารสัตว์ การปิดดีลแรกกับผู้ค้าอาหารสัตว์รายใหญ่ของตะวันออกกลางในครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงพาณิชย์ในการลดการพึ่งพาตลาดเดียว และขยายการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งกรมฯ จะผลักดันการส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบียอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลให้เกิดการนำเข้าสินค้ามันสำปะหลังจากซาอุดีอาระเบียให้มากที่สุด เนื่องจากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพในระดับโลกมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่น จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบทดแทนธัญพืชอื่นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้อย่างดี
สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปิดตลาดตะวันออกกลาง เป็นผลจากความร่วมมือกันของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ โดยจะเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยในการขยายฐานการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไปยังภูมิภาคดังกล่าวให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณอันดีที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของการดำเนินกิจกรรมตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และพันธกิจของกรมฯ ที่ผลักดันผลผลิตสู่ตลาดเป้าหมาย (Demand Driven) และถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทยในการก้าวข้ามกรอบการค้าแบบเดิมและก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มช่องทางการส่งออกจะช่วยเพิ่มอำนาจในการต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก รวมทั้ง ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออกไทยสามารถเชื่อมั่นได้ว่า ผลผลิตของตนจะมีตลาดที่มีศักยภาพสูงรองรับ ซึ่งส่งผลดีกับรายได้ที่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจะได้รับต่อไป
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี