นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กล่าวในงานกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ : DIPROM Young SMEs Network รุ่นที่ 2 ว่า ปัจจุบันธุรกิจ SMEs ไทย กว่า 60 %มีการวางแผนส่งต่อกิจการให้กับลูกหลาน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ “ทายาทธุรกิจ” ที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยมุมมองที่ทันสมัย ผสานองค์ความรู้ดั้งเดิมกับเทคโนโลยีและแนวคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ภายใต้บริบทของเศรษฐกิจยุคใหม่ หากขาดระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ในการดำเนินธุรกิจที่ดี อาจจะส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ ดังนั้นดีพร้อมได้เห็นถึงความสำคัญในการยกระดับศักยภาพทายาทธุรกิจ ให้สามารถเติบโตและก้าวเดินบนเส้นทางธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ในทุกมิติ จึงได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น
โดยกิจกรรมครั้งนี้จะเน้นการพัฒนาทักษะในด้านการบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี การตลาด การพัฒนาสินค้าที่สะท้อนถึงตัวตนของธุรกิจ ด้วยการนำกลไก Soft Power มาเป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและตอบโจทย์ตามความต้องการของตลาด โดยกิจกรรมดังกล่าวมีนักธุรกิจรุ่นใหม่และทายาทธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 40 คน เข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มทักษะ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ และเชื่อมสัมพันธ์เครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกจากพี่เลี้ยง (Mentor) เครือข่าย DIPROM SMEs Network นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบการภายใต้เครือข่ายฯ พร้อมทั้งการออกร้านแสดงและจำหน่ายสินค้าอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ได้ดำเนินการภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ 1) ให้ทักษะใหม่ 2) ให้เครื่องมือทันสมัย 3) ให้โอกาสโตไกล และ 4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน อันจะนำไปสู่การสืบทอดธุรกิจได้อย่างอย่างมั่นคง ยั่งยืน และเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
นางสาวณัฏฐิญา กล่าวว่า ดีพร้อมเชื่อมั่นว่ากิจกรรมครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการต่อยอด แตกกอ และเกื้อกูลทางธุรกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นรากฐานให้เกิดระบบนิเวศธุรกิจที่แข็งแกร่งและแข่งขันได้ ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค รวมถึงการปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความเชื่อมโยง และปลุกพลังในการดำเนินธุรกิจ อันจะส่งผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจได้ไม่ต่ำกว่า 15 - 30 % และเกิดมูลค่าทางธุรกิจกว่า 50 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี