บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ทุ่ม 3,727 ล้านบาท ส่ง SCGP Rigid Packaging Solutions Pte. Ltd. หรือ SCGPRPS บริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้น 100% ซื้อหุ้นใน Duy Tan JSC ประเทศเวียดนาม เพิ่มอีก 30% เป็น 100% มุ่งเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับอุปโภคบริโภคแบบครบวงจร ตอกย้ำกลยุทธ์ขยายการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP  เปิดเผยว่า SCGP Rigid Packaging Solutions Pte. Ltd. หรือ SCGPRPS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีก 30% ใน Duy Tan Plastics Manufacturing Corporation (Duy Tan JSC) ซึ่งเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกคงรูปในประเทศเวียดนาม โดยการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวใช้งบลงทุนอยู่ที่ 2,825 พันล้านเวียดนามดอง หรือคิดเป็น 3,727 ล้านบาท

ทั้งนี้จะส่งผลให้ SCGPRPS ถือหุ้นใน Duy Tan JSC เพิ่มขึ้นจากเดิม 70% เป็น 100% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ซึ่งการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกคงรูปดังกล่าว เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มบรรจุภัณฑ์สำหรับอุปโภคบริโภค(Consumer Packaging) แบบครบวงจร และเป็นการรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยประเทศเวียดนามมีเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวและมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจำนวนมาก นอกจากนี้ Duy Tan JSC มีการนำเสนอสินค้าแบรนด์เฉพาะชั้นนำและสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันและส่งเสริมการเติบโตให้แก่บริษัท

นายวิชาญ กล่าวว่า Duy Tan JSC มีโรงงานผลิต 5 แห่งในประเทศเวียดนาม และมีการนำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์ นวัตกรรม และบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยมีฐานลูกค้าทั้งกลุ่ม B2B (Business-to-Business การซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง) ที่เป็นบริษัทข้ามชาติและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ชั้นนำในประเทศเวียดนาม และกลุ่ม B2C (Business-to-Customer การขายสินค้าหรือบริการจากเจ้าของธุรกิจสู่ผู้บริโภคโดยตรง)

โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา Duy Tan JSC มีรายได้ 5,381 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 7,479 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 578 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 814 ล้านบาท รวมถึงมีสินทรัพย์รวม 4,627 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 6,177 ล้านบาท

“การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายการบูรณาการธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทได้มุ่งผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจ(Synergy) ในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและครบวงจร ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างของบริษัท ในการดำเนินธุรกิจสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในอาเซียน โดยเฉพาะธุรกิจในประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซีย เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในตลาดอาเซียนในระยะยาว”นายวิชาญ กล่าว