นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ศรีจันทร์สามารถเติบโตในอัตราเลขสองหลักต่อเนื่องตลอดปี 2021–2024 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ของแบรนด์ศรีจันทร์อยู่ที่ 51% และศศิอยู่ที่ 53% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในแบรนด์ไทย
ศรีจันทร์สร้างผลงานโดดเด่นในทุกหมวดผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มสกินแคร์ที่เติบโตสูงถึง 148% โดยผลิตภัณฑ์ SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream Sachet (10 ml) ขึ้นเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ยอดขายอันดับ 1 สำหรับผิวหน้าในตลาด (อ้างอิง NielsenIQ มกราคม 2567 – เมษายน 2568) ขณะที่กลุ่มเมคอัพยังคงแข็งแกร่ง แป้งฝุ่นโปร่งแสง Bare to Perfect Translucent Powder ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเช่นกัน บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายกลุ่มสกินแคร์อีก 45% ในปี 2025
ด้านแบรนด์น้องใหม่อย่าง “ศศิ” ซึ่งก่อตั้งในปี 2017 ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดขายด้านความคุ้มค่าและดีไซน์ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยมียอดขายเฉลี่ยเติบโตมากกว่า 50% ต่อปีตลอดช่วงปี 2021–2024 ส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2021 อยู่ที่ 520 ล้านบาท ปี 2022 อยู่ที่ 717 ล้านบาท ปี 2023 พุ่งเป็น 1,019 ล้านบาท และล่าสุดปี 2024 แตะ 1,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 59% โดยตั้งเป้ายอดขายปี 2025 ขยายตัวอีก 30%–40%
นอกจากความสำเร็จในประเทศ ศรีจันทร์ยังมุ่งหน้าขยายตลาดต่างประเทศ โดยเน้นการทำตลาดเชิงรุกในประเทศอาเซียนและเอเชีย ปัจจุบันในลาว มียอดขายเติบโตเฉลี่ยกว่า 112.5% ต่อปี โดยเน้นสินค้ากลุ่มสกินแคร์และกันแดด พร้อมใช้พรีเซ็นเตอร์ท้องถิ่นเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ ขณะที่ในญี่ปุ่น ศรีจันทร์นำแป้งเข้าจำหน่ายในร้านค้ากว่า 2,000 แห่ง และยังได้รับความสนใจจากบริษัท BANDAI ที่ซื้อลิขสิทธิ์ดีไซน์แป้งไปทำเป็นกาชาปอง สะท้อนถึงพลังของความเป็น T-beauty ที่เริ่มได้รับความนิยมในตลาดโลก
เบื้องหลังความสำเร็จของศรีจันทร์คือการยืนหยัดในฐานะ “Purposeful Brand” ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างแบรนด์ไทยที่คนไทยภาคภูมิใจ โดยยึดแนวทาง Modern Classic Thainess ผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับความร่วมสมัย พร้อมพัฒนาคุณภาพสินค้าให้อยู่ในมาตรฐานระดับสากล ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีและสารสกัดที่ล้ำสมัย เช่น Glyceryl Glucoside ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และ Hybrid Foundation ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวมากถึง 86%
อีกหนึ่งจุดแข็งของแบรนด์คือการเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่สะท้อนความเป็นคนรุ่นใหม่ร่วมสมัย เช่น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก, โบว์ เมลดา, แบมแบม สำหรับแบรนด์ศรีจันทร์ และ เก้า สุภัสสรา, วง PROXIE สำหรับแบรนด์ศศิ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยมุ่งเน้น 4 แกนหลัก ได้แก่ Outcome, Accountability, Adaptability และ Speed ทำให้ศรีจันทร์ได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุดจาก QMAC: QGEN Thailand Most Attractive Companies 2025
นายรวิศ กล่าวว่า ศรีจันทร์มั่นใจว่า T-beauty จะกลายเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งของไทย และจะขยายสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 10-15% ภายใน 3 ปี ผ่านการหาพันธมิตรด้านการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อผลักดันแบรนด์ไทยคุณภาพสู่ตลาดโลกในฐานะแบรนด์ที่คนไทยทุกคนภาคภูมิใจ
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี