โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) หนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ฉลองครบรอบ 15 ปี สะท้อนพลังศักยภาพคนไทย ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ยนตรกรรมคุณภาพระดับโลก และยืนหนึ่งในบทบาทการเป็นศูนย์กลางการผลิตฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่ทั่วโลกยอมรับ
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เอฟทีเอ็ม เติบโตอย่างมั่นคงในฐานโรงงานผลิต ที่รองรับทั้งตลาดในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก พร้อมได้รับความไว้วางใจจากฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ให้เป็นโรงงานแรกของโลก หรือ Lead Plant ในการเริ่มสายการผลิตรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปัจจุบัน โดยมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้และกระบวนการผลิตให้กับโรงงานฟอร์ดอีก 4 แห่งทั่วโลก ที่สำคัญ เอฟทีเอ็ม ยังเป็น ฐานการผลิตหลักระดับโลกของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะสมรรถนะสูงระดับตำนาน ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อปี 2561 และยังคงเป็นโรงงานที่ผลิตเรนเจอร์ แร็พเตอร์ สำหรับตลาดนานาชาติส่วนใหญ่ แม้ว่าฟอร์ดจะเริ่มต้นการผลิตฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สำหรับตลาดอเมริกาเหนือที่สหรัฐอเมริกาในปี 2566 เอฟทีเอ็มยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะฐานการผลิตหลักของรถรุ่นนี้ที่ส่งออกไปจำหน่ายในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก
มร.วินโค้ ซาริค ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิรูปด้านการดำเนินงาน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การฉลองครบ 15 ปี ของเอฟทีเอ็ม ไม่ใช่แค่การย้อนรำลึกถึงเส้นทางการเติบโตของเรา แต่คือการตอกย้ำถึงความภาคภูมิใจของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ที่ได้เห็นคนไทยมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ ยกระดับคุณภาพ และผลักดันฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สู่เวทีระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและพลังของทีมงานทุกคน"
คุณภาพที่เริ่มตั้งแต่ครั้งแรก: First Run Capability (FRC)
หัวใจของความสำเร็จของเอฟทีเอ็ม คือ การยึดหลัก First Run Capability (FRC) หรือ ‘ผลิตได้ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก’ โดยไม่มีข้อผิดพลาด (Zero Defects) ผ่านการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย ตั้งแต่แรงบิดของน็อตที่แม่นยำทุกตัว จนถึงกระบวนการทำงานที่ต่อเนื่องไม่มีสะดุด หากพบปัญหาก็จะได้รับวิเคราะห์และแก้ไขทันที เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ทุกคันมีคุณภาพดีที่สุดเสมอ นับเป็นผลลัพธ์จากการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและความทุ่มเทของพนักงานในทุกระดับ
“การผลิตได้ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก คือหัวใจของมาตรฐานคุณภาพที่ยึดถือในสายงานผลิต ไม่เพียงแค่วัดผลด้านคุณภาพ แต่คือการสร้างระบบการทำงานที่มั่นใจได้เราจะส่งมอบรถยนต์ฟอร์ดคุณภาพสูงสุดในทุกคัน” มร.วินโค้ กล่าวเพิ่มเติม
ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้วยพลังใจของพนักงาน
นอกจากการส่งมอบรถยนต์คุณภาพสูงสู่มือลูกค้าแล้ว เอฟทีเอ็มยังให้ความสำคัญกับการสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน ผ่านแนวคิด ‘ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้วยจิตสำนึกของพนักงาน’ (Driving Efficiency Through Employee Ownership) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการต้นทุน และรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของในผลงานของตนเอง นำไปสู่ผลลัพธ์ดำเนินงานที่คุ้มค่าและยั่งยืนในระยะยาว
FTM DNA: พลังบุคลากรและเอกลักษณ์แห่งความเป็นเอฟทีเอ็ม
แม้จะดำเนินการภายใต้มาตรฐานระดับโลกของฟอร์ด แต่สิ่งที่ทำให้เอฟทีเอ็มโดดเด่น คือ ‘FTM DNA’ เอกลักษณ์องค์กรที่พนักงานร่วมกันสร้างขึ้น ประกอบด้วย ‘Family – Teamwork – Motivated’ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง พนักงานทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเสมือนครอบครัวเดียวกัน มีการสนับสนุนซึ่งกันและกัน และขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจร่วมกัน ในการส่งมอบรถยนต์คุณภาพระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
พนักงานของเอฟทีเอ็มจากทุกระดับสามารถแสดงศักยภาพ และร่วมคิดนวัตกรรมใหม่เพื่อต่อยอดและยกระดับกระบวนการผลิตอย่างสม่ำเสมอ เช่น:
นวัตกรรมเหล่านี้เป็นเครื่องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของพนักงานเอฟทีเอ็มในการยกระดับคุณภาพ ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม
15 ปี แห่งการเดินทางของโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม เป็นมากกว่าการผลิตรถยนต์ แต่เป็นการส่งต่อความภาคภูมิใจของคนไทยสู่ถนนทั่วโลก พร้อมเดินหน้าด้วยหัวใจแห่งนวัตกรรมและความมุ่งมั่น เพื่อยกระดับยนตรกรรมไทยสู่มาตรฐานโลกที่ไม่มีวันหยุดยั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี