นายมงกุฎ เตโชฬาร กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ และการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2568 (เม.ย.-มิ.ย.2568) ธุรกิจโครงการแนวราบหรือโครงการบ้านจัดสรรของบริษัท สมารถสร้างยอดขายได้ทั้งหมด 5,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% จากไตรมาส 1/2568 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตอยู่ที่ 31%

โดยปัจจัยบวกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปิดตัว 5 โครงการใหม่ ได้แก่ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด จำนวน 1 โครงการ, บางกอก บูเลอวาร์ด  จำนวน 2 โครงการ, เวนิว จำนวน 1 โครงการ และ แมทเทอร์ จำนวน 1 โครงการ รวมทั้งผลจากการจัดกิจกรรมการตลาดเชิงรุกทั้งการจัดงานใหญ่ “SC Day” และออกบูธในหลายทำเลสำคัญ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง จึงทำให้ภาพรวมยอดขายไตรมาส 2/2568 เติบโตอย่างชัดเจน

“แม้ตลาดโดยรวมจะยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่กลุ่มบ้านระดับพรีเมียม  ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราพบว่าลูกค้าที่มีกำลังซื้อ (Real demand) ยังคงมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ ทำเล และความคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มบ้านระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไป ที่สร้างยอดขายกว่า 3,200 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2568 ซึ่งเติบโต 48% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และครองสัดส่วนยอดขายในพอร์ตสูงถึง 62% ของพอร์ตบ้านจัดสรรทั้งหมด”นายมงกุฎ กล่าว

สำหรับ 3 โครงการที่มียอดขายสูงสุดในไตรมาส 2/2568 ได้แก่ เดอะ เจนทริ พัฒนาการ 2, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า-กาญจนา, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า และนอกจากนี้ในไตรมาส 2/2568 ยังมีโครงการเปิดตัวใหม่ที่สร้างยอดขายได้อย่างน่าพอใจ ได้แก่ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นโครงการระดับลักชัวรีในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ มียอดขาย 317 ล้านบาท และโครงการ แมทเทอร์ งามวงศ์วาน พรีเมียมทาวน์โฮมที่เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัวเริ่มต้น สร้างยอดขายได้ 235 ล้านบาท โดยความสำเร็จของโครงการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งดีไซน์ ฟังก์ชัน ในแต่ละเซ็กเม้นท์            

นายมงกุฎ กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “SONLE RESIDENCES” (ซันเล เรสซิเดนเซส) แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 260-400 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการกลางเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจุดเด่นคือคำนึงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งด้านสถาปัตยกรรม พื้นที่ใช้สอย ความปลอดภัย และบริการหลังการขาย ซึ่งถือเป็นโครงการที่ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของบริษัท ในฐานะผู้นำบ้านระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง โดยในปี 2568 นี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 15 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 12 โครงการ มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท และแนวสูง 3 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท