นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า  ชุดปฏิบัติการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และเอกชนตัวแทนเจ้าของสิทธิในงานทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่กวดขันจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าปลอมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางกรุง ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าปลอมให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

สำหรับในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และเอกชนตัวแทนเจ้าของสิทธิในงานทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จับกุมผู้กระทำความผิด 139 คดี ตรวจยึดสินค้าปลอม 1,310,373 ชิ้น   โดยชุดปฏิบัติการฯ มีการตรวจยึดจับกุมแหล่งจำหน่ายสินค้าปลอม ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ จำนวน 2 ราย พบสินค้าปลอมประเภท แชมพู ครีมบำรุงผิว วิตามิน อาหารเสริมและอุปกรณ์มือถือของกลางจำนวนกว่า 700,000 ชิ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เพราะสินค้าเหล่านี้ผลิตขึ้นโดยไม่มีมาตรฐาน ไม่ถูกสุขอนามัย และอาจมีสารเคมีปลอมปนอยู่กับสินค้า 

ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการฯ ดังกล่าวยังได้ปฏิบัติงานในย่านการค้าต่างๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัด โดยมีการตรวจยึดของกลางประเภท เครื่องหนัง เสื้อ กางเกง เครื่องประดับ และอะไหล่เครื่องยนต์ จำนวนกว่า 600,000 ชิ้น ขณะเดียวกันได้มีการจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งจำหน่ายสินค้าปลอมในห้างสรรพสินค้าดังกลางกรุงพร้อมกัน 30 จุด เนื่องจากพบว่าเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมปลอมให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเป็นอย่างมาก

นางสาวนุสรา กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่ปัจจุบันพบว่ามีการผลิตสินค้าปลอมออกมาจำหน่ายในราคาถูก จึงฝากถึงผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้า โดยพิจารณาเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งจำหน่ายสินค้าที่น่าเชื่อถือและมีราคาที่เหมาะสมไม่ถูกกว่าท้องตลาดจนเกินไป สำหรับบทลงโทษของการจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี   ปรับสูงสุด 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับสูงสุด 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th หัวข้อบริการ “แจ้งเบาะแสการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” หรือ โทรสายด่วน 1368

-031