วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
แรงสุดในสายพันธุ์! Lamborghini Fenomeno ไฮบริด 1,080 แรงม้า ผลิตเพียง 29 คันทั่วโลก

แรงสุดในสายพันธุ์! Lamborghini Fenomeno ไฮบริด 1,080 แรงม้า ผลิตเพียง 29 คันทั่วโลก

วันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.14 น.
Tag : Lamborghini Fenomeno
  •  

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี เผยโฉม “Lamborghini Fenomeno” คอลเลกชันซูเปอร์คาร์ระดับโลกที่หลอมรวมดีไซน์ล้ำอนาคตเข้ากับขุมพลังที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์แบรนด์ ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด V12 ให้พละกำลังสูงสุดถึง 1,080 แรงม้า ในรุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน ที่มีเพียง 29 คันทั่วโลก การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของ Lamborghini Centro Stile สะท้อนจิตวิญญาณแห่งสมรรถนะและความกล้าท้าทายเหนือขีดจำกัดที่แท้จริงของสายพันธุ์กระทิงดุ

Fenomeno คือ การประกาศเจตนารมณ์ด้านงานดีไซน์ในแบบฉบับดั้งเดิมของลัมโบร์กินี ที่ยกระดับเอกลักษณ์ด้านการออกแบบและอากาศพลศาสตร์ไปอีกขั้น พร้อมขุมพลัง V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์แบรนด์ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 1,080 แรงม้า
เครื่องยนต์ V12 แบบดูดอากาศธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 835 แรงม้า เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 245 แรงม้า มอบนิยามใหม่แห่งสมรรถนะที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ติดตั้งในลัมโบร์กินีเป็นครั้งแรก อาทิ เซ็นเซอร์ 6D และ ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus ยกระดับทุกประสบการณ์การขับขี่สู่ความเป็นที่สุด

มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว การเปิดตัว Reventón ในปี 2007 มีเป้าหมายในการสร้างสรรค์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับสุดยอดที่แท้จริง เพื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์ที่ลัมโบร์กินีภาคภูมิใจ และสำหรับรถยนต์ รุ่นลิมิเต็ดนี้ เรายังคงรักษาปรัชญาแห่งความโดดเด่นและนวัตกรรมอันเป็นรากฐานสำคัญในดีเอ็นเอของเราไว้เฉกเช่นเดิม

“Fenomeno เป็นรถยนต์ที่เหนือชั้น ทั้งในด้านสมรรถนะ สไตล์ และการนำเสนอเอกลักษณ์ที่แปลกใหม่ของลัมโบร์กินี ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองคุณค่าและความสำเร็จของแบรนด์ ตลอดจนการอุทิศตนเพื่อลูกค้าซึ่งคาดหวังประสบการณ์สุดพิเศษจากเรา หากเหนือสิ่งอื่นใด Fenomeno คือรถยนต์รุ่นพิเศษที่เหนือชั้นกว่ารุ่นใด ๆ ในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี ที่นำเสนอนวัตกรรมโซลูชันด้านเทคนิค เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่พิเศษอย่างแท้จริง”

โครงสร้างสุดล้ำของ Lamborghini Fenomeno ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบสุดล้ำ Monofuselage คือโครงแชสซีที่ผสานความแข็งแกร่งเข้ากับน้ำหนักที่เบา ผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบเดียวกับโครงสร้าง Monocoque โดยส่วนหน้าทำจาก Forged Composite® – วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เส้นสั้นเคลือบเรซินที่ Lamborghini ใช้มาตั้งแต่รุ่น Reventón ในปี 2007 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสายการผลิตรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันระดับตำนาน

Fenomeno ยังถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ถนนจริง ด้วยระบบเบรก CCM-R Plus พร้อมจานเบรกคาร์บอนเซรามิกที่ให้การตอบสนองแม่นยำทั้งบนสนามและถนนทั่วไป เสริมด้วยล้อ Single Nut Forged เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดด้านพลวัต ร่วมกับยางสนามแข่งรุ่นพิเศษจาก Bridgestone ที่พัฒนาเฉพาะ Fenomeno โดยเฉพาะ

ด้วยขุมพลังไฮบริด V12 กำลังรวม 1,080 แรงม้า และวิศวกรรมระดับสูง Fenomeno จึงกลายเป็น Lamborghini ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา

  • เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.4 วินาที
  • 0-200 กม./ชม.  ใน 6.7 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดมากกว่า 350 กม./ชม.พร้อมอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าดีที่สุดในประวัติศาสตร์   แบรนด์ที่ 1.64 กก./แรงม้า

Lamborghini Fenomeno สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ด้านหน้าที่เฉียบคมและทรงพลัง รูปลักษณ์เพรียวบางแนบชิดกับพื้นผิวสไตล์สปอร์ต ฝากระโปรงหน้า มาพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ 2 ช่อง ได้แรงบันดาลใจจาก Huracán GT3 รถแข่งระดับตำนาน ขณะที่ไฟหน้าแบบ DRL ซิกเนเจอร์ ได้รับการออกแบบให้สะท้อนถึง “เขา” ของกระทิงในโลโก้ Lamborghini อย่างสง่างาม อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ โลโก้ลัมโบร์กินีเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่ งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2024 และถูกนำมาใช้กับ Fenomeno เป็นครั้งแรกบนรถรุ่นโปรดักชัน เสริมความโดดเด่นให้ด้านหน้า พร้อมองค์ประกอบดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น เส้นสายรูปตัว Y และ สปลิตเตอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ที่กลมกลืนกับดีไซน์ไฟหน้าอย่างลงตัว

มุมมองด้านข้าง ถ่ายทอดจิตวิญญาณลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผ่านเส้นสายเรียบเฉียบที่ลากจากปลายฝากระโปรงจนถึงท้ายรถ ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ Long Tail ของรุ่น Essenza SCV12 โทนสีของตัวถังช่วงบนสื่อถึงความแข็งแกร่ง ตัดกับโครงสร้างอากาศพลศาสตร์ด้านล่างที่ตกแต่งด้วย ครีบคาร์บอนไฟเบอร์แบบรถแข่ง เสริมแรงกดอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการออกแบบซุ้มล้อที่ลงตัวทั้งด้านฟังก์ชันและความงาม

Lamborghini Fenomeno เผยนิยามใหม่แห่งอากาศพลศาสตร์ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในทุกเส้นทาง ด้วยการวิจัยและพัฒนาขั้นสูง ระบบอากาศพลศาสตร์ของ Fenomeno ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างแรงกดและลดแรงต้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่บนถนนหรือสนามแข่ง

สปลิตเตอร์หน้าทำงานร่วมกับม่านอากาศคู่ ช่วยควบคุมการไหลของอากาศขนานกับล้อหน้า เพื่อลดแรงต้านและเพิ่มการไหลเวียนเข้าสู่หม้อน้ำ ขณะที่ ระบบ S-Duct บริเวณด้านหน้าช่วยเสริมแรงกด เพิ่มความมั่นคงของตัวรถในความเร็วสูง และนำอากาศไหลต่อเนื่องสู่ หลังคาทรงเว้า เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของอากาศก่อนเข้าสู่ ช่องดักอากาศเครื่องยนต์ และ ปีกหลังแบบแอคทีฟดีไซน์ “โอเมก้า” ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพสูงสุดในความเร็วระดับสูง

ดีไซน์ประตูแบบใหม่ ช่วยส่งผ่านอากาศเข้าสู่ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ด้านข้าง เพื่อระบายความร้อนให้ห้องเครื่องและหม้อน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม ท่อ NACA ดีไซน์ใหม่ ที่สืบทอด DNA ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่น Countach ให้สมรรถนะด้านการระบายความร้อนด้านข้างดีขึ้นกว่าเดิมถึง 30% เมื่อเทียบกับ Lamborghini V12 รุ่นทั่วไป

ด้านหลังของ Fenomeno แสดงให้เห็นถึงความกล้าท้าทายทางการออกแบบเส้นสายที่ต่อเนื่องระหว่าง ปีกหลังกับซุ้มล้อ สร้างมิติใหม่ให้ตัวถังและช่วงท้ายดูชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมไฟท้ายแนวตั้งรูปทรง “ตัว Y” ที่สะท้อนเอกลักษณ์ลัมโบร์กินี ผสานกับ ดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ และ ปลายท่อไอเสียดีไซน์หกเหลี่ยม  ล้อแม็กฟอร์จแบบ น็อตเดี่ยว ขนาด 21 นิ้ว (หน้า) และ 22 นิ้ว (หลัง) ดีไซน์เทอร์ไบน์ พร้อมยาง Bridgestone Potenza Sport ขนาด 265/30 ZRF21 และ 355/25 ZRF22 ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการยึดเกาะขั้นสูงสุด

ภายใน Lamborghini Fenomeno ถ่ายทอดแนวคิด “Hyper Design” ผสานอารมณ์แบบนักบินอย่างแท้จริง ห้องโดยสารถูกออกแบบ ภายใต้ปรัชญา “Feel like a pilot” ที่สร้างความเชื่อมโยงลึกซึ้งระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถ ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งที่โอบกระชับ และพวงมาลัยสไตล์รถแข่ง มอบประสบการณ์การควบคุมที่เต็มอารมณ์ พร้อมหน้าจอดิจิทัล 3 จอ ที่สะท้อนความมินิมอลและล้ำยุค ด้วยการลดปุ่มควบคุมลงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ขับขี่จดจ่อกับเส้นทางเบื้องหน้าได้อย่างเต็มที่

วัสดุภายในห้องโดยสารถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อเน้นน้ำหนักเบาและสมรรถนะขั้นสูงโครงสร้างหลักทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น  คอนโซลกลาง, แผงประตู, หรือ เบาะนั่งสปอร์ตดีไซน์เฉพาะรุ่น รวมถึงช่องระบายอากาศที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3D Printing เสริมด้วยระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในยานอวกาศ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่สู่มิติใหม่

Fenomeno ยังเปิดกว้างสำหรับการปรับแต่งอย่างไร้ขีดจำกัด ผ่านโปรแกรม Lamborghini Ad Personam ลูกค้าสามารถเลือก โทนสีตัวถังมากกว่า 400 สี, วัสดุหุ้มเบาะหลากหลายแบบ และดีไซน์การตกแต่งภายในตามสไตล์เฉพาะตัว พร้อมบริการปรับแต่งแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ สตูดิโอ Ad Personam ณ ซัง'อกาตา โบโลนเญส เพื่อให้ Fenomeno คันหนึ่งเดียวในโลก กลายเป็นภาพสะท้อนตัวตนของเจ้าของได้อย่างแท้จริงBottom of Form

เครื่องยนต์ V12 แบบ oversquare ให้กำลังขับ 835 แรงม้าที่ 9,250 รอบต่อนาที ด้วยชุดควบคุมการเปิดและปิดวาล์วที่ได้รับการออกแบบใหม่ รองรับความเร็วรอบสูงสุดที่ 9,500 รอบต่อนาที และให้กำลังจำเพาะสูงกว่า 128 แรงม้า/ลิตร ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเครื่องยนต์ V12 ของลัมโบร์กินี ทั้งยังให้แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที โดย 80% ของแรงบิดทั้งหมดจะทำงานที่รอบเครื่อง 3,500 รอบต่อนาที

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ส่งกำลังไปยังล้อหลัง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งบนเพลาหน้า โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเรเดียลฟลักซ์ตัวที่สามซึ่งติดตั้งอยู่เหนือกระปุกเกียร์คอยส่งแรงบิดไปยังล้อหลังตามโหมดการขับขี่ที่เลือก

แรงบิดรวมจากทั้งสี่ยูนิตมอบสมรรถนะที่โดดเด่นแม้ในกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต ด้วยแรงบิดถึง 725 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์และ 350 นิวตันเมตรจากมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าแต่ละตัว ทำให้ได้แรงบิดสูงสุดรวมสูงสุด 1,080 แรงม้า ซึ่งเกิดจากการใช้แบตเตอรี่ขนาด 7 กิโลวัตต์ชั่วโมงแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรุ่น Fenomeno โดยเฉพาะ

มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าสองตัวแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมันวางตามแนวแกน และมีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังอันยอดเยี่ยมที่ 110 กิโลวัตต์ต่อยูนิต ซึ่งมีน้ำหนักในแต่ละยูนิตเพียง 18.5 กิโลกรัม ซึ่งนอกจากขับเคลื่อนล้อหน้าแล้ว ยังมีฟังก์ชันควบคุมแรงบิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลวัตการขับขี่ รวมถึงฟังก์ชันการสร้างพลังงานกลับคืนจากการเบรก

เกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่สมรรถนะสูงสุดแนวสปอร์ต เนื่องจากใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มเกียร์ 8 สปีดยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและความรู้สึกสบายสูงสุดในขณะขับขี่ ส่วนฟังก์ชันลดเกียร์ต่อเนื่องซึ่งสามารถลดเกียร์ได้หลายเกียร์พร้อมกันเพียงแค่กดปุ่มเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้ายค้างไว้ ก็นับว่ามีความโดดเด่น เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกเกียร์ที่เหมาะสมตามความเร็วได้ในขณะเบรก สร้างความรู้สึกในการควบคุมรถได้อย่างเต็มเปี่ยม

ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลักถูกติดตั้งเหนือกระปุกเกียร์ ทำหน้าที่ควบคุมทั้งมอเตอร์สตาร์ทและเจนเนอเรเตอร์ พร้อมจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ด้านหน้า ผ่านแบตเตอรี่ความจุสูงที่ติดตั้งบริเวณใต้ช่องว่างตัวรถระบบนี้ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์เมื่อขับขี่ด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (100%) และยังทำให้ Fenomeno กลายเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อแบบปลอดมลพิษ ได้อย่างแท้จริง โดยเพลาหลังรับพลังงานขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าโดยตรง

การทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าปรับเปลี่ยนตามโหมดการขับขี่ ด้วยกลไกแบบแยกส่วน (modular mechanism) พร้อมซิงโครไนเซอร์เฉพาะทางที่เชื่อมต่อกับเกียร์คลัตช์คู่

  • เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ V12 มอเตอร์ไฟฟ้าจะอยู่ในตำแหน่ง P3 (ด้านล่างกระปุกเกียร์)
  • เมื่ออยู่ในโหมดชาร์จแบตเตอรี่ หรือขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำ มอเตอร์จะปรับสู่ตำแหน่ง P2 เพื่อเก็บพลังงานกลับเข้าสู่ระบบ

เมื่ออยู่ในตำแหน่ง P3 Fenomeno สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ตอกย้ำ สมรรถนะขับเคลื่อนสี่ล้ออันแม่นยำ ตามแบบฉบับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของลัมโบร์กินี แม้ในโหมดขับขี่ปลอดมลพิษก็ตาม

เมื่อสร้างกำลังเครื่องยนต์และสมรรถนะที่เพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องออกแบบระบบเบรกใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความแข็งแกร่งและความทนทานในระดับที่จำเป็น โดยยังต้องรักษาเสถียรภาพในการเบรกที่ยอดเยี่ยม ซึ่ง Fenomeno ใช้ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยีเบรก LMDh ที่ใช้ในรถแข่ง เช่นรุ่น SC63 เพื่อนำสมรรถนะจากสนามแข่งมาสู่ท้องถนน


Fenomeno ยกระดับการควบคุมพลศาสตร์ของรถด้วย เซ็นเซอร์ 6D รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลัมโบร์กินีติดตั้งในรถโปรดักชัน โดยเซ็นเซอร์จะถูกวางในตำแหน่งใกล้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบ IPB (Integrated Power Brake) เพื่อประเมินพฤติกรรมของรถ ได้อย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ โดยเซ็นเซอร์ 6D สามารถวัดทั้ง

  • ความเร่งในแนวแกน 3 ทิศทาง (แนวยาว, ด้านข้าง, แนวดิ่ง)
  • ความเร็วเชิงมุมในแกนการหมุน (Pitch, Yaw, Roll)

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ระบบประเมิน ความเร็ว, มุมลื่นไถล, และแรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนน ได้อย่างละเอียดแม่นยำ

เซ็นเซอร์ 6D ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบ IVE (Integrated Vehicle Estimator) ที่ทำงานร่วมกับอัลกอริทึม Kalman Filtering เพื่อตรวจจับและคาดการณ์พฤติกรรมพลวัตของรถ ในทุกสถานการณ์ ส่งผลให้ระบบควบคุมทั้งหมดของ Fenomeno ทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาดและสอดคล้อง

ระบบ IVE ยังเชื่อมต่อกับ IBC (Integrated Brake Controller) ที่ช่วยควบคุมการลื่นไถลของล้อระหว่างเบรก และลดระยะเบรกลงได้ถึง 10% โดยเฉพาะในการขับเข้าโค้ง หรือสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น การแซงรถในจุดที่จำกัดพื้นที่ ทั้งหมดนี้เกิดจากความแม่นยำของเซ็นเซอร์ 6D ที่ส่งต่อข้อมูลให้ระบบตอบสนองได้อย่างเฉียบคม

นอกจากนี้ ยังมีชุดแต่งดีไซน์เฉพาะสำหรับรถแข่ง เพื่อถ่ายทอดสมรรถนะจากสนามแข่งขันโดยผ่านการรับรองการใช้งานบนถนนสาธารณะ เพื่อการแสดงสมรรถนะได้อย่างเต็มที่

ข้อมูลทางเทคนิค

ขนาดตัวรถ

ความยาว: 5014 มม.

ความกว้าง: 2076 มม.

ความสูง: 1161 มม.

ฐานล้อ: 2779 มม.

เบรก

หน้า: 420x40 มม.

หลัง: 410x32 มม.

ระบบส่งกำลัง

เครื่องยนต์ (ICE + BEV)

ปริมาตรกระบอกสูบ: 6498 ลบ.ซม.

กระบอกสูบและช่วงชัก: 95 x 76.4 มม.

กำลังสูงสุด (รอบต่อนาที) (ICE): 835 แรงม้า ที่ 9250 รอบต่อนาที

กำลังสูงสุด (รวม ICE + EE): 1.080 แรงม้า

แรงบิดสูงสุด (ICE): 725 นิวตันเมตร ที่ 6750 รอบต่อนาที

กำลังขับเฉพาะ: 128 แรงม้า/ลิตร

รอบสูงสุด: 9500 รอบต่อนาที

อัตราส่วนกำลังอัด: 12.6:1

ระบบส่งกำลังและกระปุกเกียร์

กระปุกเกียร์แบบคลัตช์คู่ 8 สปีด

สมรรถนะ

ความเร็วสูงสุด: มากกว่า 350 กม./ชม.

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที

อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม.: 6.7 วินาที

ระยะเบรก 100-0 กม./ชม.: 30 ม.

อัตราส่วนน้ำหนักแห้ง/กำลัง: 1.64 กก./แรงม้า

 

ดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอที่ media.lamborghini.com   

ดูรายละเอียดของออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี ได้ที่ www.lamborghini.com

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘ภูมิธรรม’ เผยมหาดไทย นำทีมไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนการพัฒนาชนบท

กรมการปกครองแจงแล้ว!!! ปมชื่อ-สกุล'หลวงพ่ออลงกต'ซ้ำกับคนเสียงชีวิต

'ภูมิธรรม'ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้งปชช. ลุยช่วยเหลือชายแดนไทย-กัมพูชา

'ภูมิธรรม'แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน ติดตามนโยบายมหาดไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved