นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลและวุฒิบัตรให้นักธุรกิจที่ผ่านการพัฒนาอย่างเข้มข้นใน 2 หลักสูตร ณ ศูนย์ประชุม      กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า ในวันนี้ (25 สิงหาคม 2568) กรมฯ ภูมิใจที่ได้พัฒนาผู้ประกอบการไทยจำนวน 70 ราย ให้สามารถนำความรู้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้และต่อยอดธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ และสร้างความภาคภูมิใจให้ธุรกิจ พร้อมด้วยการการันตีด้วยวุฒิบัตร โดยในปีนี้มีผู้สำเร็จหลักสูตร นักธุรกิจมืออาชีพ (DBD-SPE) จำนวน 46 ราย และนักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ (DBD-ACM)  จำนวน 24 ราย

โดยหลักสูตรนักธุรกิจมืออาชีพจะเน้นการให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ   ตั้งแต่ด้านการบริหารจัดการองค์กร การตลาด การเงิน การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และด้านเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม และหลักสูตรนักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ ที่ให้ความรู้ด้านการตลาดดิจิทัลและการประยุกต์ใช้เครื่องมือการตลาดสมัยใหม่ เพื่อการขยายช่องทางการตลาดให้กว้างขึ้น ทั้งนี้  ตลอดการอบรมได้เก็บคะแนนและติดตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจตลอดหลักสูตร โดยพิจาณาจากความตั้งใจ การเข้าร่วมกิจกรรม พัฒนาการหลังจากได้รับคำปรึกษา และธุรกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด มีธุรกิจที่มีความโดดเด่นและได้รับคะแนนเก็บสูงสุด จนได้รับรางวัล The Best Practice หลักสูตรละ 3 ราย รวมทั้งสิ้น 6 ราย

สำหรับปีนี้ยังมีความพิเศษมากขึ้นโดยเพิ่ม 2 ประเภทรางวัลด้านการพัฒนา Content ที่ตอบโจทย์การเข้าถึงลูกค้ายุคใหม่ เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าให้สินค้าหรือบริการ เชื่อมโยงให้ลูกค้าใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอธุรกิจ (Pitching) ให้กับกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อการตลาด ประกอบไปด้วย รางวัล Content Marketing Creator Award ให้กับนักธุรกิจมืออาชีพ จำนวน 3 ราย

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ดำเนินการจัดหลักสูตร DBD-SPE และ DBD-ACM มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สร้างผู้ประกอบธุรกิจที่มีคุณภาพมากถึง 1,033 ราย ทั้งนี้ กรมฯ ได้ติดตามผลความสำเร็จของผู้เข้าร่วมการพัฒนาในหลักสูตร DBD-SPE และ DBD-ACM ระหว่างปี 2562-2567 พบว่า ช่วยสร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 1.9 พันล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2568 ธุรกิจที่ผ่านการอบรมจาก 2 หลักสูตรข้างต้นสามารถสร้างมูลค่าการค้าได้ถึง 121 ล้านบาท ซึ่งเป็นความสำเร็จและเป็นความภาคภูมิใจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างมาก โดยได้พัฒนาผู้ประกอบการตั้งแต่การเสริมสร้างความรู้ด้านดิจิทัลและการบริหารจัดการธุรกิจ (Group Coaching) การสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งให้กับนักธุรกิจผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน การศึกษาดูงานองค์กรนวัตกรรม และให้คำปรึกษาแบบเจาะลึกเป็นรายธุรกิจ (One-On-One Coaching) ทำให้แต่ละธุรกิจมองเห็นปัญหาของธุรกิจตนเองได้ชัดเจน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญได้เข้าไปช่วยแนะนำแบบตัวต่อตัว และวิเคราะห์ปัญหาพร้อมดึงศักยภาพที่เข้มแข็งของธุรกิจออกมา ประกอบกับกำหนดทิศทางการวางแผนทั้งระยะสั้นและยาวเพื่อการขยายตลาด ปิดช่องว่างธุรกิจให้สามารถลดต้นทุน เพิ่มกำไรและนำเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบันมาช่วยบริหารธุรกิจอย่างเป็นระบบได้อย่างทันที” อธิบดีอรมน กล่าว

- 030