บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ (SET: S) ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน 75 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ‘เอส อ่างทอง’ กับบริษัท ด๋าลี่ ฟู้ดส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารระดับโลกมากว่า 33 ปี ซึ่งถือเป็นการปิดดีลสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ตอกย้ำศักยภาพทั้งในด้านทำเล เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และระบบพลังงานสะอาด ของเอส อ่างทอง ที่พร้อมเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งใหม่สำหรับอุตสาหกรรมที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท เล็งเห็นศักยภาพของจังหวัดอ่างทอง ในฐานะทำเลจุดยุทธศาสตร์แห่งใหม่ของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างภาคกลางตอนบนและกรุงเทพฯ รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ด้านวัตถุดิบอาหารและแรงงานที่เหมาะสม จึงได้พัฒนาโครงการ ‘เอส อ่างทอง’ สู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศต้นแบบของประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘Eco Factory & Green Industry’ ที่ผสานโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูงและระบบสาธารณูปโภคที่มีพร้อมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 3 โรง กำลังการผลิตขนาด 403 เมกะวัตต์ และระบบผลิตน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี Ultra Filtration รองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต พร้อมให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้จากการที่อุตสาหกรรมอาหารระดับโลกอย่าง ‘ด๋าลี่ ฟู้ดส์’ เลือกลงทุนในพื้นที่ของเราในครั้งนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเข้าสู่พื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง และถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการ และสะท้อนความเชื่อมั่นต่อวิสัยทัศน์ ‘Entrusted and Value Enricher’ ของสิงห์ เอสเตท ในการสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจในระดับประเทศ พร้อมผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยเติบโตบนพื้นฐานของคุณภาพและความยั่งยืนอย่างแท้จริง”

นายกำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทองในวันนี้ ไม่ใช่แค่การขยายพื้นที่ แต่คือการยกระดับมาตรฐานของโซลูชันสำหรับภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต เราพัฒนาพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ผสาน ‘โลจิสติกส์–เทคโนโลยี–พลังงานสะอาด’ ไว้อย่างสมบูรณ์ พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะและสาธารณูปโภคครบวงจร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่นี่ไม่ใช่แค่ ‘นิคม’ แต่คือ ‘ระบบนิเวศแห่งการลงทุน’ ที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับพันธมิตรอย่างบริษัทด๋าลี่ ฟู้ดส์ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เราเชื่อมั่นว่า เอส อ่างทอง จะเป็นฐานที่มั่นคงแข็งแรง และเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในระยะยาวอย่างแท้จริง

นายอดัม หม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ด๋าลี่ ฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ขยายการดำเนินธุรกิจและฐานการผลิตมายังประเทศไทยในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ‘เอส อ่างทอง’ สำหรับด๋าลี่ ฟู้ดส์ การเลือกสถานที่ตั้งโรงงานไม่ใช่แค่เรื่องของทำเลและเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน แต่รวมถึงความสอดคล้องในเรื่องวิสัยทัศน์และแนวคิดร่วมกันด้วย ซึ่งเราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ พร้อมทั้งมุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการทำงานภายใต้จริยธรรมทางธุรกิจ และส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของเอส อ่างทอง ที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม เราเชื่อมั่นว่านี่คือจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่มั่นคงและยั่งยืนของทั้งสององค์กร

ทั้งนี้การลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่าง ‘สิงห์ เอสเตท’ และ ‘ด๋าลี่ ฟู้ดส์’ ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อศักยภาพของโครงการ ‘เอส อ่างทอง’ และยังตอกย้ำบทบาทของสิงห์ เอสเตท ในการเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยแนวคิดความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ เพื่อเสริมแกร่งอุตสาหกรรมไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

 -031