คต.นำผู้ส่งออกข้าวไทยหารือภาคการค้าภาครัฐ-เอกชนญี่ปุ่น

คต.นำผู้ส่งออกข้าวไทยหารือภาคการค้าภาครัฐ-เอกชนญี่ปุ่น

วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.17 น.

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 7 – 11 กันยายน 2568 กรมฯ มีกำหนดจะนำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางไปพบปะหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าวของญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และรักษาตลาดข้าวไทยในญี่ปุ่น ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่มอบหมายให้กรมฯ รักษาปริมาณการส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นที่ปีละประมาณ 300,000 ตัน

สำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นที่กรมฯ มีกำหนดจะนำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยไปพบหารือในครั้งนี้ได้แก่ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น (Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries: MAFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่กำหนดปริมาณการนำเข้าข้าวและกำกับดูแลการประมูลเพื่อนำเข้าข้าวของญี่ปุ่น บริษัท Overseas Merchandise Inspection Company (OMIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพข้าวที่จะนำเข้าของญี่ปุ่น และผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของญี่ปุ่น ประกอบด้วย บริษัท Kitoku Shinryo Co., Ltd. บริษัท ITOCHU Food Sales and Marketing Co., Ltd. และบริษัท Kanematsu Corporation รวมทั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวรายสำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งต่างล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการค้าข้าวของญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายไทยมาโดยตลอด


นางอารดา กล่าวว่า  ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของโลก โดยแต่ละปีมีผลผลิตข้าว ประมาณ 7.28 – 7.64 ล้านตัน และมีความต้องการข้าวปีละมากกว่า 8 ล้านตัน โดยนำเข้าข้าวจากต่างประเทศปีละประมาณ 700,000 ตัน ซึ่งแหล่งนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไทย สหรัฐฯ ออสเตรเลียและจีน สำหรับปี 2568 ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากต่างประเทศแล้วประมาณ 402,157 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.15 โดยนำเข้าจากสหรัฐฯ มากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ไทย ออสเตรเลีย และจีน ตามลำดับในส่วนการส่งออกข้าวไทยไปญี่ปุ่น ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นประมาณ 257,000 – 336,000 ตัน ครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวของญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 37 – 45 โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นแล้วประมาณ 148,000 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.36 ที่ส่งออกประมาณ 183,000 ตัน เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมบริโภคข้าวเมล็ดสั้น (Japonica) เป็นอาหารหลัก

แต่ในช่วงที่ผ่านมาญี่ปุ่นผลิตข้าวได้ไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ จึงต้องนำเข้าข้าวเมล็ดสั้นหรือเมล็ดกลางจากต่างประเทศเข้าไปทดแทนผลผลิตข้าวในประเทศ ขณะที่ข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นข้าวเมล็ดยาว ได้แก่ ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 ของปริมาณข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เช่น ผลิตสาเก และขนมอบกรอบ เนื่องจากข้าวไทยเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐาน ส่วนข้าวไทยที่เหลืออีกร้อยละ 10 ถูกนำไปใช้ในครัวเรือนและร้านอาหารในญี่ปุ่น ด้วยจุดเด่นของข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยในด้านความนุ่มความหอม และรสชาติเฉพาะตัวจึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคข้าวในญี่ปุ่น ดังนั้น การเดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ นอกจากเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าข้าวแล้ว ยังมุ่งหวังจะช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในญี่ปุ่น และส่งเสริมปริมาณการส่งออกข้าวไทยไปญี่ปุ่นให้เพิ่มขึ้นด้วย

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top