อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กางแผน “IP 4 All”

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กางแผน “IP 4 All”

วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.57 น.
Tag :

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า ได้มอบนโยบาย “IP 4 All” หรือ “ทรัพย์สินทางปัญญา
เพื่อทุกคน” ให้แก่ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมผลักดันการดำเนินงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องเร่งเดินหน้าทำทันทีเพื่อสนองต่อนโยบาย Quick Big Win ของรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป้าหมายในช่วง 4 เดือนแรก กรมฯ มุ่งสร้างแต้มต่อทางธุรกิจใน 4 ด้านสำคัญ ครอบคลุมทั้งภาคชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษาวิจัย และภาคประชาชน อย่างทั่วถึง
นางอรมน กล่าวว่า แนวทางแรกคือการดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อชุมชน (IP for Community) ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ การยกระดับสินค้าชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI อย่างน้อย 5 สินค้าในช่วง 4 เดือนแรก โดยมีสินค้าท้องถิ่นที่มีศักยภาพ อาทิ ทุเรียนชุมพร กกเหล่าพัฒนา (นครพนม) ไก่เบตงยะลา ผ้าทอนาหมื่นศรี (ตรัง) และมะยงชิดแม่ย่าสุโขทัย เป็นต้น นอกจากนี้ จะมีการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว รวมทั้งการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ


สำหรับแนวทางการดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อธุรกิจ (IP for Business) โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs จะได้รับความสะดวกด้านการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งสามารถเข้าถึง
งานบริการต่างๆ ของกรมฯ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น โดยจะมีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการ พร้อมปรับปรุงกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับบริบททางการค้าในยุคปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในกลุ่มนวัตกรรมเพื่ออนาคตของประเทศ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองแบบเร่งด่วนด้วยระบบ Fast Track ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาในการจดทะเบียน ได้แก่ 1) สิทธิบัตรการประดิษฐ์/อนุสิทธิบัตร ในสาขานวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุข นวัตกรรมอาหาร นวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ลดระยะเวลาจดทะเบียน จาก 38.5 เดือน เหลือ 12 เดือน และอนุสิทธิบัตรจาก 12 เดือน เหลือ 6 เดือน 2) สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในสาขานวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดระยะเวลาจดทะเบียนจาก 15 เดือน เหลือ 3 เดือน 3) เครื่องหมายการค้า ในกรณีที่ต้องนำหลักฐานการจดทะเบียนไปแสดงต่อหน่วยราชการอื่น โดยลดระยะเวลาจดทะเบียนจาก 12 เดือนเหลือ 3 เดือน ซึ่งภาพรวมการจดทะเบียนและจดแจ้งข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาในปี 2568 (มกราคม - กันยายน) มีสถิติสูงถึง 43,173 คำขอ



แนวทางต่อมา คือ การดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการวิจัยและนวัตกรรม(IP for Innovation) ส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ วิเคราะห์แนวโน้มการจดสิทธิบัตรและเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเป็นประโยชน์ต่อนวัตกรและนักวิจัยไทย รวมทั้งทำงานร่วมกับสถาบันการเงินและตลาดทุนส่งเสริมการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและระดมทุน หรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
และสุดท้ายคือ แนวทางการดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อผู้บริโภค (IP for Consumer) โดยการบูรณาการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดในย่านการค้าสำคัญทั่วประเทศ
รวมถึงช่องทางออนไลน์ ที่เน้นให้นำมาตรการ Notice & Takedown มาใช้อย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์ม e-Commerce เมื่อได้รับแจ้งว่ามีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม จะต้องรีบนำออกจากช่องทางการขายในแพลตฟอร์มดังกล่าวทันที เพื่อป้องกันผลกระทบจากสินค้าที่ด้อยคุณภาพและอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ ในปี 2568 (มกราคม - กันยายน) มีการจับกุมดำเนินคดีกับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 699 คดี รวมของกลางกว่า 2.5 ล้านชิ้น พร้อมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ด้านการเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้เข้มแข็ง เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สร้างรายได้ให้ประชาชนทุกระดับอย่างยั่งยืน

-032

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top