เอกชนไทยปักหมุดสิงคโปร์ แหล่งเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์และความมั่งคั่ง

เอกชนไทยปักหมุดสิงคโปร์ แหล่งเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์และความมั่งคั่ง

วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

รายงานความมั่งคั่งของผู้ประกอบการทั่วโลก(Global Entrepreneurial Wealth Report) ปี 2025 เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการโยกย้ายสินทรัพย์และความมั่งคั่งข้ามพรมแดนของผู้ประกอบการทั่วโลกพบว่าเกือบ 3 ใน 5 ของผู้ประกอบการทั่วโลก (59%) กำลังกระจายความมั่งคั่งไปยังต่างประเทศซึ่งมากกว่าครึ่งของผู้ประกอบการทั่วโลก (57%) กำลังพิจารณาย้ายไปตั้งถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ และเกือบครึ่งของผู้ประกอบการทั่วโลก (49%) วางแผนขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ

ผู้ประกอบการในเมืองไทยยังคงมีมุมมองเชิงบวกที่แข็งแกร่งโดย 90% มั่นใจว่าสินทรัพย์และความมั่งคั่งส่วนบุคคลจะเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังมองหาโอกาสการลงทุนในระดับภูมิภาค โดยให้ความสนใจสิงคโปร์ (26%) และญี่ปุ่น (26%) เป็นจุดหมายยอดนิยมในการโอนย้ายสินทรัพย์และความมั่งคั่ง


รายงานยังชี้ว่า ผู้ประกอบการทั่วโลกกำลังปรับตัวรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นการค้าข้ามพรมแดนและโอนย้ายสินทรัพย์ภายในภูมิภาค โดยเฉพาะในเอเชียและ ตะวันออกกลาง เห็นได้จาก 5 ตลาดที่ผู้ประกอบการสนใจขยายการลงทุนไปมากที่สุดล้วนอยู่ในเอเชียและตะวันออกกลาง โดยสิงคโปร์และฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางธุรกิจและความมั่งคั่ง

สิงคโปร์ติดอันดับหนึ่งของตลาดที่ผู้ประกอบการจากทั่วโลกต้องการโยกย้ายสินทรัพย์และความมั่งคั่งส่วนบุคคลไปมากที่สุด (15%) เพราะเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค ขณะที่สหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์ (11% เท่ากัน) เป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งยอดนิยมลำดับถัดมา ด้วยการดึงดูดสินทรัพย์และความมั่งคั่งข้ามพรมแดนจากผู้ประกอบการจากเอเชียและตะวันออกกลางที่ต้องการกระจายความเสี่ยง

แม้ตลาดผันผวนและสถานการณ์โลกไม่แน่นอน แต่เจ้าของธุรกิจทั่วโลกส่วนใหญ่ (94%) ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจ และ 90% เชื่อว่าสินทรัพย์และความมั่งคั่งส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของความเชื่อมั่นนี้ โดยกว่า 3 ใน 5 (62%) ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหรือ AI เป็นปัจจัยหลักที่สร้างความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ขณะที่การลงทุนใน AI กลายเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมสำหรับการขยายธุรกิจ

ขณะที่ความผันผวนในตลาดการเงินเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการทั่วโลกกังวลมากที่สุดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์และความมั่งคั่งส่วนบุคลคล (40%) รองลงมา คือ อัตราเงินเฟ้อ (36%)ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อซื้อรถยนต์สูงสุดที่ 58%  รองลงมา คือ สินค้าฟุ่มเฟือย (53%) อสังหาริมทรัพย์ (53%) และสุขภาพ (50%)

แม้ว่า 78% ของผู้ประกอบการจากทั่วโลกจะมีแผนการส่งต่อธุรกิจที่ชัดเจน แต่ครึ่งหนึ่ง (51%) ยังกังวลว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่หากตนไม่อยู่40%ของอดีตผู้ประกอบการส่งต่อธุรกิจให้คนในครอบครัว ขณะที่ 20% ขาย, 17% โอนให้คนนอกครอบครัว และ 14% ปิดกิจการผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่ถือครองสินทรัพย์นอกตลาดและหุ้นจดทะเบียนในสัดส่วนใกล้เคียงกัน (46% เท่ากัน) แม้ว่าการถือครองสินทรัพย์นอกตลาดของผู้ประกอบการในประเทศต่างๆ จะมีความแตกต่างกัน

นายกาเบรียล คาสเตลโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอชเอสบีซี ไพรเวท แบงก์ กล่าวว่า ในปีที่รูปแบบการค้าระหว่างประเทศที่มีมายาวนานถูกท้าทาย ผู้ประกอบการทั่วโลกต้องปรับตัวและประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมใหม่ให้ได้ นวัตกรรมและมุมมองเชิงบวกของผู้ประกอบการเหล่านี้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งของเส้นทางการค้าและโอกาสในระเบียงการค้าใหม่ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตะวันออกกลางและศูนย์กลางความมั่งคั่งในเอเชีย รายงานแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั่วโลกกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตระดับโลกในระยะต่อไปและใช้ระเบียงการค้าเหล่านี้เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและสร้างความมั่งคั่ง

นายเบนจามิน หวัง ผู้อำนวยการสายงานไพรเวท แบงค์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการในไทย 90% มีมุมมองเชิงบวกว่าสินทรัพย์ส่วนบุคคลจะเติบโต จากผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุน แนวโน้มธุรกิจ และโอกาสในการลงทุนและธุรกิจใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสในระดับภูมิภาคโดยใช้ประโยชน์จากประเทศใกล้เคียงในภูมิภาคอย่างญี่ปุ่นและสิงคโปร์ โดยผู้ประกอบการในไทย 26% จากกลุ่มตัวอย่าง มองสิงคโปร์เป็นจุดหมายยอดนิยมในการโอนย้ายสินทรัพย์และความมั่งคั่งส่วนบุคคล และอีก 26% สนใจญี่ปุ่น สิ่งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการในไทยและความพร้อมในการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนผ่านโอกาสการลงทุนระหว่างประเทศ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top