กรมทรัพย์สินฯ จับมือ สยามพิวรรธน์ยกระดับสินค้าสร้างสรรค์ไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา

กรมทรัพย์สินฯ จับมือ สยามพิวรรธน์ยกระดับสินค้าสร้างสรรค์ไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 09.47 น.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ได้พบหารือนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น อาร์ตทอย ตัวคาแรคเตอร์ ที่นำมาวางจำหน่ายในเครือศูนย์การค้าสยามพิวรรธน์ อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่และไอคอนสยาม เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและสามารถต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้

โดยที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับผลงานสร้างสรรค์ของตน โดยเฉพาะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกก๊อปปี้หรือลอกเลียนแบบผลงาน เนื่องจากไม่ได้ยื่นจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาผลงานสร้างสรรค์ดังกล่าว เช่น วางจำหน่ายโดยไม่มีแบรนด์และไม่ได้จดเครื่องหมายการค้า ไม่ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ไม่ได้จดแจ้งผลงานลิขสิทธิ์ อีกทั้งยังขาดความรู้ด้านการประเมินมูลค่าผลงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะกรณีที่จะไลเซนส์ (License) ผลงานเพื่อให้ผู้อื่นไปผลิตต่อ เป็นต้น ทำให้เมื่อผลงานได้รับความนิยม มักเกิดปัญหาการถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและไม่สามารถบังคับใช้สิทธิหรือเอาผิดกับผู้กระทำละเมิดได้


ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นพ้องที่จะจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ด้านกลยุทธ์การบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผู้ประกอบการสินค้าสร้างสรรค์ในเครือข่าย ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาในมิติต่างๆ ทั้งการจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองเพื่อเป็น
เกราะป้องกันในการดำเนินธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ การต่อยอดใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยติดอาวุธและเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ดังกล่าว

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ แจ้งว่า พร้อมสนับสนุนพื้นที่ศูนย์การค้าในเครือ เพื่อให้ผู้ประกอบการสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ได้มีโอกาสนำสินค้ามาวางจำหน่ายและได้พบกับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียง มีคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับ สู่ตลาดสินค้าพรีเมียม เนื่องจากเล็งเห็นคุณค่าและศักยภาพของสินค้า GI ไทยจากท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผลไม้ อาหาร ผืนผ้า ฯลฯ ล้วนสามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย เจาะกลุ่มผู้บริโภคในเมืองใหญ่และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงได้ นับเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้เติบโตเพิ่มขึ้น จากที่ในปี 2568 สินค้า GI ไทยสร้างมูลค่าการตลาดรวมกว่า 82,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีมูลค่าการตลาดสินค้า GI ไทย 76,000 ล้านบาท)

นางอรมน กล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยอาศัย “ทรัพย์สินทางปัญญา” เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การนำของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SME และการเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย เพื่อต่อยอดโอกาสของภาคธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top