กพช.เคาะกรอบเบื้องต้น เดินหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน

กพช.เคาะกรอบเบื้องต้น เดินหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 08.00 น.

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระสำคัญด้านพลังงาน 7 เรื่อง และมีมติเห็นชอบ ดังต่อไปนี้

โดยเห็นชอบกรอบหลักการเบื้องต้นการดำเนิน “โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน” หนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงาน รูปแบบโครงการจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวมกำลังการผลิตไม่เกิน 1,500 เมกะวัตต์


การกำหนดขนาดและพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินโครงการ จะพิจารณาจากศักยภาพระบบไฟฟ้า ความต้องการใช้ไฟของชุมชน และความพร้อมของที่ดินในพื้นที่ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) อัตราไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 25 ปี สัญญาแบบ Non-Firm และเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตได้ให้แก่ผู้ใช้ไฟในชุมชนเป้าหมาย

ทั้งนี้สิทธิในหน่วย Renewable Energy Certificate (REC) หรือ Carbon Credit ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าภายใต้โครงการนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของภาครัฐ ทั้งนี้ประชุมได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

นอกจากนี้เห็นชอบหลักการร่างสัญญา Energy Wheeling Agreement (EWA) สำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ระยะที่ 2 (LTMS-PIP Phase 2) โดยเห็นชอบอัตราค่า Wheeling Charge ของไทย เท่ากับ 3.5879 US Cent /หน่วย ทั้งนี้ สามารถปรับเพิ่มอัตรา Wheeling Charge ได้ แต่ต้องไม่ก่อนวันที่ 22 มิถุนายน 2569 

ขณะเดียวกันได้เห็นชอบให้ กฟผ. ดำเนินการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ประกอบการ Data Center ตามนโยบายรัฐบาล โดยให้ใช้งบประมาณภายใต้โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออกเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า (TIPE) ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติไว้แล้ว เพื่อดำเนินการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าให้สามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้ารวมประมาณ 1,750 เมกะวัตต์ 

ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางดำเนินการสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน โดยเห็นชอบให้ดำเนินการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในอัตรารับซื้อ 2.1679 บาทต่อหน่วย เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับใช้เจรจาของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินที่ กฟผ.ได้ดำเนินการจัดทำโดยปรับให้สอดคล้องกับลักษณะโครงการและต้นทุนการดำเนินการของภาคเอกชน ตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 มีอัตรา 2.1941 บาทต่อหน่วย สูงกว่าอัตราค่าไฟฟ้าในรูปแบบ FiT ของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินที่มีอัตรา 2.1679 บาทต่อหน่วย

อย่างไรก็ตามที่ประชุมมีมติให้ภาคเอกชนพิจารณาปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาปรับปรุงกรอบระยะเวลาการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และขยายกำหนดวันเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละโครงการ โดยการขยาย SCOD ต้องไม่เกินปี 2573

ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2569-2571 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายด้านพลังงานของประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในทุกภาคส่วน ตามที่คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้กำหนดกรอบการใช้จ่ายรวม 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ปีงบประมาณ 2569 จำนวน 9,000 ล้านบาท และปี 2570-2571 ปีละ 3,000 ล้านบาท  

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top