กรมทรัพย์สินฯ ผนึก SACIT ยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยสู่ตลาดโลก

กรมทรัพย์สินฯ ผนึก SACIT ยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยสู่ตลาดโลก

วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.00 น.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย และคณะ เพื่อต่อยอดความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาในการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทย ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ งานศิลปหัตถกรรมไทยมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทั้งเครื่องทอ เครื่องโลหะ เครื่องดิน เครื่องหิน เครื่องไม้ เครื่องหนัง เครื่องแก้ว เครื่องกระดาษ งานประดิษฐ์และงานศิลปะอื่นๆ ซึ่งสะท้อนภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นได้อย่างน่าสนใจ

โดยผลงานเหล่านี้สามารถนำมาจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาได้หลายประเภท อาทิ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องหมายการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รวมทั้งการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้สร้างสรรค์ว่าผลงานศิลปหัตถกรรมไทยจะได้รับการปกป้องคุ้มครองตามกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถต่อยอดการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ ทั้งการสร้างแบรนด์และการขยายโอกาสทางการตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค้าและสร้างรายได้ให้กับชุมชนและผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทยอย่างยั่งยืน โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ตัวเลขการส่งออกงานศิลปหัตถกรรมไทยมีมูลค่าสูงกว่า 3 แสนล้านบาท


นางอรมน กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาและ SACIT ได้มีการทบทวนและเตรียมจัดทำความร่วมมือ (MOU) ฉบับใหม่ เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานที่ครอบคลุมมากขึ้น และสอดรับกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน โดยเน้นประเด็นสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1) การเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยจัดอบรมให้ความรู้ให้แก่กลุ่มศิลปิน ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาท และผู้ประกอบการสมาชิกของ SACIT ที่มีจำนวนกว่า 500 คน เพื่อให้เข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาที่จะสามารถนำมาต่อยอดผลงานและนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ รวมทั้งจัดอบรมความรู้ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่เจ้าหน้าที่ของ SACIT เพื่อให้สามารถเป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้เบื้องต้นแก่สมาชิกได้ 2) การปกป้องคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผลงานศิลปหัตถกรรมไทย โดยเฉพาะลวดลายผ้า กระบวนการผลิตสิ่งทอ รวมถึงการ์ตูนคาแรกเตอร์ และสินค้าอาร์ตทอย เพื่อให้ผลงานสร้างสรรค์ของคนไทยมีกฎหมายเป็นหลักพิงหากเกิดกรณีถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

3) การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ โดยผลักดันให้เกิดการนำผลงานที่ได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไปสร้างมูลค่าเพิ่ม ผ่านช่องทางการตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) รวมทั้งเปิดพื้นที่ซื้อขายผลงานบนแพลตฟอร์มตลาดกลางทรัพย์สินทางปัญญา (IP Mart) และ 4) การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับใช้ประโยชน์ในการพัฒนาต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทยร่วมกัน

ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมเดินหน้าร่วมกับ SACIT เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้งานศิลปหัตถกรรมไทยประเภทต่างๆ ได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งให้เจ้าของผลงานสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างเป็นระบบ ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน โดยทั้งสองหน่วยงานจะจัดทำ MOU ฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จและจัดพิธีลงนาม MOU ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

-031

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top