อุตฯก่อสร้างปี’69 เงินหมุนเวียน 1.41 ล้านล้าน

อุตฯก่อสร้างปี’69 เงินหมุนเวียน 1.41 ล้านล้าน

วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินภาพรวมมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2569 มีแนวโน้มทรงตัว อยู่ที่ 1.41 ล้านล้านบาท  มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัว +1%YOY แตะระดับ 860,000 ล้านบาท โดยเผชิญแรงกดดันจากกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2569 ในส่วนของวงเงินงบลงทุนลดลง 5% จากปีงบประมาณ 2568 ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ดี Mega project ที่กำลังดำเนินการมีความคืบหน้า รวมถึงในปี 2569 จะมีการเริ่มประมูล Mega project ใหม่ๆ

มูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 2569 มีแนวโน้มหดตัวมาอยู่ที่ 551,000 ล้านบาท (-1%YOY) การก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องไปตามภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่หดตัว การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มีแนวโน้มทรงตัวส่งผลให้กิจกรรมการก่อสร้างภาคเอกชนชะลอตัวในระยะข้างหน้า


ภาคก่อสร้างยังเผชิญความท้าทายในปี 2569 ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูง แม้ราคาวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มลดลงแต่ยังสูงเมื่อเทียบกับก่อนปี 2565 ประกอบกับแรงงานพื้นฐานชาวเมียนมามีแนวโน้มลดลง อาจกดดันให้ค่าแรงสูงขึ้น ยังมีผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นโดยเฉพาะผู้ว่าจ้างโครงการก่อสร้างเข้มงวดกับคุณภาพ และมาตรฐานวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งบทบาทของผู้รับเหมาสัญชาติจีนส่งผลให้มีการแข่งขันด้านราคาในการเข้าประมูลงาน รวมถึงกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องใน Supply chain โดยใช้วัสดุก่อสร้างจากจีนมากขึ้น สำหรับความท้าทายในระยะปานกลาง ได้แก่ ภาวะ Oversupply ของภาคอสังหาริมทรัพย์, Productivity ของภาคก่อสร้างอยู่ในระดับต่ำ และแรงกดดันในการลดการปล่อย Emission

ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างมีแนวทางการปรับกลยุทธ์เช่นเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้โดยร่วมมือกับพันธมิตร ระมัดระวังการเข้าประมูลแบบแข่งขันด้านราคา และควบคุมต้นทุนก่อสร้างโดย เป็นพันธมิตรกับผู้ค้า และผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอย่างหลากหลาย ทำสัญญาสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า รวมถึงวางแผนการใช้แรงงาน

ให้ความสำคัญกับการบริหาร Backlog โดยปรับสัดส่วนในการเข้าประมูลงานก่อสร้างภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างเหมาะสม รวมถึงดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนสร้างความน่าเชื่อถือ โดยยกระดับความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างต่างชาติที่มีความน่าเชื่อถือ   ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่ม Productivity ด้วยการลงทุนนำเทคโนโลยีก่อสร้างมาใช้

อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างปี 2569 ในภาพรวมมีแนวโน้มหดตัวเล็กน้อย จากปัจจัยด้านราคาวัสดุก่อสร้าง ทั้งเหล็ก ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง และสีทาอาคารในปี 2569 มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ตามต้นทุนราคาราคาวัตถุดิบ และพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นสินแร่เหล็ก ถ่านหิน น้ำมัน และค่าไฟฟ้า รวมถึงสถานการณ์การแข่งขันด้านราคาที่ค่อนข้างรุนแรง ยังเป็นปัจจัยกดดันให้ราคากระเบื้องมีแนวโน้มปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีราคาวัสดุก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีต(ก่อนปี 2022)ปริมาณการใช้งานวัสดุก่อสร้างในปี 2569 เผชิญแรงกดดันในภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่หดตัว ที่ส่งผลให้ปริมาณการใช้งานวัสดุก่อสร้างที่พึ่งพาการก่อสร้างภาคเอกชนเป็นหลักหดตัว

ประเด็นที่ยังต้องจับตาคือสินค้าต่างประเทศที่จะถูกระบายเข้ามาไทยมากขึ้น จากผลกระทบของสงครามการค้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการทะลักเข้ามาของเหล็กจีน และถูกซ้ำเติมด้วยเหล็กญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งมีแนวโน้มถูกระบายเข้ามามากขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ เคยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กของสหรัฐฯ มาก่อนที่จะยกเลิกการยกเว้นและปรับเพิ่มอัตราภาษี นอกจากนี้ผลกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เกิดการระบายกระเบื้องจากทั้งจีน เวียดนาม และอินเดียมายังไทยมากขึ้น

ปัจจัยกดดันรอบด้านในปี 2569 ส่งผลให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างต้องปรับกลยุทธ์โดยแสวงหาโอกาสจากการจับขั้วทางเศรษฐกิจ รับมือกับสินค้าจีน ควบคุมมาตรฐานการผลิตสินค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงลดการปล่อย Emission จากกระบวนการผลิต สำหรับผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง ต้องติดตามสถานการณ์ และแนวโน้มของอุตสาหกรรม จัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top