‘พาณิชย์’ หารือฝรั่งเศส กระชับความสัมพันธ์ทางการค้า  ร่วมมือด้านคมนาคม-พลังงาน-เศรษฐกิจดิจิทัล

‘พาณิชย์’ หารือฝรั่งเศส กระชับความสัมพันธ์ทางการค้า ร่วมมือด้านคมนาคม-พลังงาน-เศรษฐกิจดิจิทัล

วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.16 น.

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับฝรั่งเศส มุ่งกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมืออย่างใกล้ชิด มุ่งอำนวยความสะดวก ขยายโอกาสการค้าและการลงทุน ยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน พร้อมร่วมขับเคลื่อนการเจรจา FTA ไทย–อียู ให้สำเร็จโดยเร็ว

นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจ (High Level Economic Dialogue หรือ HLED) ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ครั้งที่ 6 โดยไทยเป็นเจ้าภาพ  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ กระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) ให้เป็นประธานการประชุมร่วมกับนางมากาลี เซซานา อธิบดีกรมการค้าทวิภาคีและพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์และนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน


นายรัชวิชญ์ กล่าวว่า ฝรั่งเศสสนใจที่จะขยายความร่วมมือและการลงทุนสาขาการคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะการขนส่งทางราง การขนส่งมวลชนในเมือง การขนส่งทางถนน การขนส่งทางน้ำ และโลจิสติกส์ รวมถึงการบินและอากาศยาน ซึ่งปัจจุบันสองฝ่ายหารือเพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมืออย่างใกล้ชิด โดยฝรั่งเศสได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการพัฒนาการคมนาคมขนส่งของไทย สำหรับสาขาการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ขณะนี้สองฝ่ายอยู่ระหว่างจัดทำร่างปฏิญญาแสดงเจตจำนงเพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมพลังงานระหว่างกันในด้านพลังงานทางเลือก การพัฒนาระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้า (EV) เพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยไทยได้นำเสนอนโยบายและแผนการปรับตัวด้านพลังงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย นอกจากนี้ สองฝ่ายยังได้หารือถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อนำเทคโนโลยี AI มาช่วยพัฒนาบริการด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับที่ผ่านมา ไทยและฝรั่งเศสมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในหลายด้าน ทั้งระบบราง ดาวเทียมและอวกาศ การบิน และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสามารถกระชับความร่วมมือเหล่านี้ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และไทยยังได้ใช้โอกาสนี้ นำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสำหรับสินค้าแฟชั่นและการออกแบบ อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการชุดไทย และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าแฟชั่นในช่วง Paris Fashion Week โดยมีแผนจะเชิญผู้แทนระดับสูงของฝรั่งเศสเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงปีหน้า นอกจากนี้ สองฝ่ายได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการเจรจา FTA ไทย-อียู ให้มีความคืบหน้าและสามารถสรุปผลการเจรจาให้ได้โดยเร็ว โดยเชื่อว่าการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ความตกลงการค้าฉบับนี้ สามารถสรุปผลได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นการขยายโอกาสและยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-อียู และไทย-ฝรั่งเศส ต่อไป

ทั้งนี้ การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับฝรั่งเศส จัดขึ้นครั้งแรก ในปี 2558 เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน สำหรับฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 24 ของไทยในโลก และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป รองจากเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และอิตาลี โดยในปี 2567 การค้าระหว่างไทยและฝรั่งเศส มีมูลค่า 5,669.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปฝรั่งเศส มูลค่า 1,959.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากฝรั่งเศส มูลค่า 3,709.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เลนซ์ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องประดับอัญมณี เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด

- 030 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top