วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ว่า บอร์ดบีโอไอได้รับทราบความคืบหน้าในการติดตามและเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ได้รับอนุมัติในช่วงปี 2566-2567 จำนวน 74 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านบาท โดยมีโครงการที่เริ่มลงทุนแล้วหรือมีแผนจะลงทุนที่ชัดเจนราว 80% ทั้งในแง่จำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนที่ติดตาม แบ่งเป็นโครงการที่เริ่มลงทุนแล้วจำนวน 32 โครงการ (160,000 ล้านบาท) และโครงการที่จะเริ่มลงทุนในช่วงปลายปี 2568 ถึงปี 2569 อีก 28 โครงการ (82,500 ล้านบาท) ในส่วนอีก 14 โครงการที่เหลือ มีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 61,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่ชะลอหรือปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน เนื่องจากประสบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ซึ่งบีโอไอจะติดตามความคืบหน้าและประสานงานช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อไป
ปรับเงื่อนไขกิจการ Data Center มุ่งสร้างสมดุลการลงทุนที่ยั่งยืน
AI และบริการคลาวด์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก บอร์ดบีโอไอได้เห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนกิจการ Data Center เพื่อกระตุ้นให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้กับบุคลากรไทย โดยกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าการจ้างงานในตำแหน่งผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ จะต้องมีบุคลากรไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในเวลา 3 ปี และเพื่อเป็นกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเหมาะสม จึงเห็นควรปรับสิทธิประโยชน์ให้การลงทุนในพื้นที่ EEC ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3-5 ปี และนอกพื้นที่ EEC ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปี
ทั้งนี้ ในการส่งเสริมกิจการ Data Center ได้มีการกำหนดเงื่อนไขอื่น ๆ อยู่เดิมแล้ว เช่น มาตรฐานในการก่อสร้างและให้บริการ Data Center ตัวชี้วัดการใช้พลังงานไฟฟ้า (Power Usage Effectiveness: PUE) ระบบการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องเสนอแผนสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทย เช่น การจัดฝึกอบรมการจัดทำหลักสูตรร่วมกับสถาบันการศึกษา การทำวิจัยและพัฒนา การพัฒนาทักษะของผู้ประกอบการ SMEs ไทยการสนับสนุน ห่วงโซ่อุปทานในประเทศ โดยต้องดำเนินการตามแผนที่เสนอให้แล้วเสร็จก่อนการใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
“การปรับเงื่อนไขส่งเสริม Data Center ครั้งนี้ มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีขั้นสูง การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการจ้างงานและการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบุคลากรไทย บอร์ดเห็นว่าการส่งเสริม Data Center ยังมีความสำคัญต่อการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล กระตุ้นการพัฒนา AI และ Data Industry การให้บริการคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งสนับสนุนให้ไทยมุ่งสู่การเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค” นายนฤตม์ กล่าว
ไฟเขียวอนุมัติ 4 โครงการ Data Center เงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท
นอกจากการปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุน Data Center แล้ว บอร์ดบีโอไอยังได้อนุมัติโครงการลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ จำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนเกือบ 1 แสนล้านบาท เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค และสร้างความมั่นคงทางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ประกอบด้วย
1. บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด โครงการ Data Center ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เงินลงทุน 7,550 ล้านบาท เป็นบริษัทในเครือ KDDI ประเทศญี่ปุ่น ที่มีการลงทุน Data Center 45 แห่ง ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก
2. บริษัท วิสตัส เทคโนโลยี จำกัด โครงการ Data Center ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี เงินลงทุน 9,091 ล้านบาท เป็นบริษัทในเครือ ZDATA Technologies ประเทศสิงคโปร์ มีการลงทุน Data Center มากกว่า 30 แห่งทั่วโลก
3. บริษัท เน็กซ์เจน ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด โครงการ Data Center ตั้งอยู่ที่เขตอุตสาหกรรมของบริษัท นวนคร จังหวัดปทุมธานี เป็นโครงการระดับ Hyperscale เงินลงทุน 26,720 ล้านบาท
4. บริษัท ซีนิท ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด โครงการ Data Center ตั้งอยู่ที่เขตอุตสาหกรรมของบริษัท นวนคร จังหวัดปทุมธานี เป็นโครงการระดับ Hyperscale เงินลงทุน 54,853 ล้านบาท
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี