‘HENG’9เดือนกำไรพุ่ง427%ลุยผนึกพันธมิตรขยายพอร์ตสินเชื่อ

‘HENG’9เดือนกำไรพุ่ง427%ลุยผนึกพันธมิตรขยายพอร์ตสินเชื่อ

วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2568 กำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 427% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุน ควบคู่ไปกับการผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งกว่า 10,000 รายทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงลูกค้าคุณภาพและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อ ภายใต้แบรนด์ “เฮงลิสซิ่ง” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 ว่า แม้รายได้รวมของบริษัทจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,679 ล้านบาท หรือลดลง 24% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่บริษัทตั้งใจควบคุมขนาดพอร์ตสินเชื่อ และคัดกรองคุณภาพลูกหนี้อย่างเข้มข้น


อย่างไรก็ตามบริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงในการบริหารจัดการต้นทุน โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ในไตรมาส 3/2568 ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน (YoY) และ 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อน (QoQ)

ทั้งนี้ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของในปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท เติบโต 427% (YoY) ขณะค่าใช้จ่าย SG&A ของงวด 9 เดือนแรกปี 2568 ลดลงถึง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ผลสำเร็จจากกลยุทธ์การควบคุมคุณภาพพอร์ตสินเชื่ออย่างเข้มข้น ยังช่วยสร้างกระแสเงินสดส่วนเกิน ทำให้บริษัทสามารถนำไปชำระคืนหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงได้ เมื่อประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวลดลง จึงส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 1.5 เท่า ณ สิ้นปี 2567 มาอยู่ที่ระดับ 1.1 เท่า และคาดว่าจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงวินัยและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2568 บริษัทมุ่งขับเคลื่อนการเติบโตผ่าน 2 กลยุทธ์ ดังนี้ 1.การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพ (Technology-Driven Efficiency) บริษัทปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนในการทำงาน พร้อมจัดโครงสร้างการทำงานแบบกลุ่มสาขา (Branch Grouping) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและอนุมัติสินเชื่อ ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนด้านบุคลากรและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน

2.การผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร (Partner-Centric Expansion) บริษัทเดินหน้าสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 10,000 รายทั่วประเทศ ประกอบด้วย เต็นท์รถยนต์กว่า 6,000 แห่ง ร้านค้าอุปกรณ์การเกษตรกว่า 2,000 แห่ง และร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกกว่า 1,000 ราย ซึ่งกลยุทธ์นี้จะช่วยให้บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งกระจ่ายอยู่ทั่วประเทศ รองรับการขยายพอร์ตสินเชื่อไปสุ่กลุ่มเกษตรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาด้วยตนเอง และเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุม

“ผลประกอบการในครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทเดินมาถูกทาง การปรับตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัทเป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยเปลี่ยนโฟกัสจากการขยายขนาดพอร์ต มาเป็นการสร้างผลกำไรที่มีคุณภาพ หัวใจสำคัญคือการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในให้คล่องตัว และลดต้นทุน ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งของบริษัท เป็นช่องทางที่ทรงพลังและไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเหมือนการเปิดสาขาด้วยต้นเอง ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน”นายวิชัย กล่าว

  

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top