วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
กรมทรัพย์สินทางปัญญา(DIP) ร่วมกับ ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดตัวกระเช้าปีใหม่สินค้า GI “สุขชุมชน” รวมสุดยอดสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) คุณภาพระดับพรีเมียมจากทั่วประเทศ เป็นของขวัญสำหรับเทศกาลปีใหม่ เพื่อส่งเสริมการบริโภคสินค้าท้องถิ่น สร้างรายได้สู่ชุมชน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา มุ่งเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SME และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้า GI อย่างเป็นรูปธรรม ตามแนวนโยบาย Quick Big Win ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) ผ่านการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่ๆ และผลักดันการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพ พร้อมขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดสินค้า GI ไทยสู่ตลาดอย่างมั่นคงและยั่งยืนโดยปัจจุบันมีสินค้า GI ไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 243 รายการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 114,329 ล้านบาท
นางอรมน กล่าวว่า การร่วมมือกับท็อปส์ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า GI ให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ผ่านรูปแบบกระเช้าของขวัญคุณภาพ “สุขชุมชน” ซึ่งเป็นการต่อยอดมูลค่าผลิตภัณฑ์ GI ท้องถิ่นสู่ของขวัญที่มีคุณค่าทั้งในเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรม สะท้อนอัตลักษณ์ของความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาและท็อปส์ได้ร่วมกันคัดสรรสินค้า GI 9 รายการที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศมาจัดเป็นกระเช้าของขวัญคุณภาพ เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ที่สุขใจผู้ให้ และดีต่อใจผู้รับ สินค้า GI ดังกล่าว ประกอบด้วย
สินค้า GI ในกลุ่มอาหาร 6 รายการ ได้แก่ 1) ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง จุดเด่นคือเมล็ดข้าวที่มีสีขาวปนแดงหรือสีชมพู เมล็ดข้าวเรียวเล็ก เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเหน็บชา เป็นต้น และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 2) ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ เมล็ดข้าวเหนียวนุ่ม ไม่เละหรือแฉะ แม้เก็บไว้ในภาชนะปิดหลายชั่วโมงก็ยังสามารถคงความอ่อนนุ่มไว้ได้ มีกลิ่นหอมธรรมชาติ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ให้พลังงานสูง 3) พริกไทยจันท์ (จันทบุรี) พริกไทยแห้งชนิดเม็ดและป่น กลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์ มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืดและใช้เป็นสมุนไพรไล่ลม
4) สับปะรดภูแลเชียงราย มีผลขนาดเล็ก เนื้อสีเหลืองกรอบ แกนสับปะรดรับประทานได้ มีกลิ่นหอม รสชาติหวาน ให้วิตามินซีสูงช่วยต้านอนุมูลอิสระและดีต่อระบบขับถ่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดกระเช้าคือสับปะรดภูแลเชียงรายที่ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีอบแห้ง จึงเก็บไว้ได้นาน โดยที่คุณค่าทางโภชนาการยังอยู่ครบ 5) ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน จุดเด่นคือเนื้อหนาสีเหลืองทอง ไม่แข็งและไม่เหนียว รสชาติหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ สามารถเก็บไว้ได้นานโดยรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ให้พลังงาน และช่วยบำรุงเลือด และ 6) ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน ลายบนเปลือกเป็นร่องลึกชัดเจน เมล็ดถั่วมีขนาดใหญ่ ผิวมีลายเส้นสีม่วงคล้ายกับลายเสือโคร่ง เมื่อผ่านกระบวนการคั่วด้วยเกลือแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นจะทำให้เนื้อกรอบ รสชาติหวานมันปนเค็มอ่อนๆ เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชชั้นดี ช่วยให้อิ่มนาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
และสินค้า GI ในกลุ่มเครื่องดื่ม 3 รายการ ได้แก่ 1) ชาเชียงราย ใบชามีกลิ่นหอมละมุน รสชาติฝาดอ่อนๆ ไม่ขมจัด มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความผ่อนคลาย ลดความเครียด กระตุ้นสมาธิและระบบเผาผลาญ 2) น้ำหมากเม่าสกลนคร น้ำจากผลหมากเม่ามีสีแดงหรือม่วงเข้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยวเจือฝาด อุดมไปด้วยสารอาหาร มีปริมาณสารแอนโธไซยานินสูง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ บำรุงสายตาและหัวใจ ลดการอักเสบ และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และ 3) กาแฟเทพเสด็จ (เชียงใหม่) กาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกแบบธรรมชาติร่วมกับไม้ป่า เมล็ดมีลักษณะยาวกว่าเมล็ดกาแฟทั่วไป รสชาติกลมกล่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าช่วยเพิ่มความตื่นตัว ทั้งนี้ สินค้า GI ทั้ง 9 รายการ ล้วนเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 469 ล้านบาทต่อปี
ด้าน นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า ท็อปส์ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยของไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า GI ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนภูมิปัญญาและอัตลักษณ์อันโดดเด่นของชุมชนท้องถิ่น โดยมุ่งมั่นที่จะเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงคุณค่าและเสน่ห์ของสินค้า GI เหล่านี้อย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้ กระเช้า “สุขชุมชน” ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ตอกย้ำเจตนารมณ์ของท็อปส์ในการส่งต่อคุณค่าสินค้า GI สู่ของขวัญแห่งความปรารถนาดีที่สร้างความอิ่มเอมใจให้กับทุกฝ่าย
ความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการประสานพลังระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้า GI ไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งผู้สนใจสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการ GI โดยเลือกซื้อกระเช้า “สุขชุมชน” ได้แล้ววันนี้ ที่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ และ ตลาดจริงใจ Farmers' Market ในเครือเซ็นทรัลทุกสาขาที่ร่วมรายการ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : GI Thailand และ Tops Thailand - ท็อปส์ ไทยแลนด์
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี