วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายซันนี่ ชาง (Sunny Shang) ประธานหัวเว่ย คลาวด์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า หัวเว่ย คลาวด์ ประกาศความสำเร็จในการก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแบบ IaaS (Infrastructure as a Service: IaaS) อันดับ 2 ของประเทศไทย ตามรายได้ประจำปี 2567 จากรายงานล่าสุดของ Gartner® สะท้อนถึงศักยภาพ ความแข็งแกร่ง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ย คลาวด์ ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในประเทศ ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของหัวเว่ย คลาวด์ในเวทีโลก ที่มาพร้อมโลโก้ใหม่และสโลแกน “The AI Pioneer in Industries” ซึ่งตอกย้ำพันธกิจในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ก้าวสู่อนาคตด้วยพลังแห่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ภายใต้กลยุทธ์ “In Local, For Local” ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานในประเทศไทย หัวเว่ย คลาวด์ เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานและศักยภาพด้านการให้บริการในประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน หัวเว่ย คลาวด์ มีศูนย์ข้อมูล (Availability Zone) ทั้งหมด 3 แห่งทั่วประเทศไทย สามารถให้บริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ด้วยค่าความหน่วง (Latency) ต่ำสุดเพียง 12 มิลลิวินาที พร้อมด้วยการสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพและพันธมิตรในระบบนิเวศภายในประเทศ ปัจจุบัน หัวเว่ย คลาวด์ ให้บริการลูกค้าชาวไทยมากกว่า 1,000 ราย
หัวเว่ย คลาวด์ เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพองค์กรไทยผ่าน 3 จุดแข็งหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ (Security & Reliability), การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI-Driven Evolution) และ การให้บริการที่เข้าใจบริบทท้องถิ่น (Localized Services) โดยให้บริการคลาวด์และโซลูชันมากกว่า 110 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ไปจนถึงโมเดลขนาดใหญ่เฉพาะอุตสาหกรรม ปัจจุบัน หัวเว่ย คลาวด์ ได้สนับสนุนการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลให้กับหน่วยงานภาครัฐไทยกว่า 40 แห่ง ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาแชตบอตอัจฉริยะ ระบบฐานความรู้ด้วย AI ไปจนถึงการฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่ภายในประเทศ โซลูชันแบบครบวงจรของหัวเว่ย คลาวด์ ช่วยลดความซับซ้อนและอุปสรรคในการนำระบบคลาวด์มาใช้ พร้อมรับประกันความเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมทาง IT ที่หลากหลาย นอกจากนี้ หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้สร้างระบบนิเวศด้าน AI ที่แข็งแกร่ง โดยพัฒนาทักษะและฝึกอบรมนักพัฒนาไทยแล้วกว่า 20,000 ราย
สำหรับแนวทางการวางตำแหน่งแบรนด์ใหม่ภายใต้แนวคิด “The AI Pioneer in Industries” สะท้อนถึงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรม ในประเทศไทย หัวเว่ย คลาวด์ ได้นำศักยภาพหลักในสามด้านสำคัญมาใช้เพื่อเร่งการทรานส์ฟอร์มสู่ความอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ 1. การสนับสนุนโมเดลกระแสหลัก เสริมรากฐาน AI ให้แข็งแกร่ง: หัวเว่ย คลาวด์ เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ผ่านบริการคลาวด์ Ascend AI ที่รองรับโมเดลโอเพ่นซอร์สชั้นนำระดับโลก อาทิ DeepSeek, Qwen และ GLM โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของข้อมูลในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดเก็บ การฝึกอบรม ไปจนถึงการนำไปใช้งานจริง แพลตฟอร์มฝึกอบรมของหัวเว่ย คลาวด์ มีความเสถียรในระดับอุตสาหกรรม รองรับการฝึกโมเดลอย่างต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 40 วัน พร้อมระบบกู้คืนการทำงาน (task recovery) ที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
2. แพลตฟอร์มระดับองค์กรเพื่อการใช้งาน AI อย่างรวดเร็ว: แพลตฟอร์ม Versatile Agent จากหัวเว่ย คลาวด์ ถูกออกแบบมาเพื่อเร่งกระบวนการพัฒนาและการนำ AI มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง AI Agent ได้ภายในเพียงสองขั้นตอน ลดความซับซ้อนในการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดระยะเวลาการตอบสนองได้มากกว่า 40% นอกจากนี้ หัวเว่ย คลาวด์ ยังนำเสนอ โซลูชันแบบบูรณาการสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
3. ความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมและประสบการณ์ระดับโลกที่พิสูจน์แล้ว: หัวเว่ย คลาวด์ มีประสบการณ์ในการประยุกต์ใช้โซลูชันด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในระดับโลก ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ (Pangu Government), ภาคการเงิน (Pangu Finance), ภาคอุตสาหกรรม (Pangu Predict), ภาคสาธารณสุข (Pangu Medical) ตลอดจนเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving)
นายซันนี่ ชาง กล่าวว่า เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าของหัวเว่ย คลาวด์ ในตลาด IaaS ของประเทศไทย สโลแกนใหม่นี้สะท้อนถึงคำมั่นของเราที่จะนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชั้นนำมาขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย เสริมพลังให้ทุกภาคส่วนสามารถคว้าโอกาสแห่งยุคดิจิทัลและอัจฉริยะได้อย่างเต็มศักยภาพ หัวเว่ย คลาวด์ จะยังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทักษะบุคลากร และการสร้างพันธมิตรในระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี