วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD หนึ่งในผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรในอาเซียน เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวนและนโยบายการค้าโลกที่มีความไม่แน่นอน โดยทำรายได้รวม 19,128.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 905.8 ล้านบาท เติบโตถึง 52.4% เมื่อเทียบกับกำไรจากการดำเนินงานในช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่นับรวมรายการพิเศษ ที่มีกำไรจากการเข้าลงทุนในบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรชั้นนำในมาเลเซีย ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมจำนวน 339.4 ล้าน นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 13.9% จาก 13.0% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยธุรกิจที่ขับเคลื่อนการเติบโตในช่วง 9 เดือนแรกและทำรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ (1) คลังสินค้าทั่วไป ทำรายได้ 967.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% (2) คลังสินค้าห้องเย็น ทำรายได้ 839.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% (3) การขนส่งหลากหลายรูปแบบ ทำรายได้ 728.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.9% (4) ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าและอาร์ตสเปซ ทำรายได้ 104.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.3% (5) โลจิสติกส์อินฟราสตรักเจอร์ ทำรายได้ 349.5 ล้าน เพิ่มขึ้น 23.1% (6) ธุรกิจต่างประเทศ ทำรายได้ 3,081.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% และ (7) การจัดหาสินค้า (Sourcing) ทำรายได้ 1,267.1 ล้าน เพิ่มขึ้น 6.7%
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ทำรายได้รวม 6,252.5 ล้านบาท ทรงตัวเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากดีมานด์ขนส่งสินค้าแบบ B2B ได้รับผลกระทบจากช่วงฤดูกาล เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่เข้าสู่โลว์ซีซัน และการขนส่งสินค้าข้ามแดนบางส่วนได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา และธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ได้รับผลกระทบจากยอดขายรถที่ชะลอ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 257.8 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง 7.5% เหลือ 508.2 ล้านบาท จาก 549.5 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 13.5% เทียบกับ 12.9% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SJWD กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจขนส่งแบบ B2B และธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ที่ฟื้นตัว เนื่องจากความต้องการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ ขนส่งรถและชิ้นส่วนยานยนต์ น่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี จากการเร่งโครงการก่อสร้างและการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ส่วนธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นคาดว่าจะมีความต้องการเช่าพื้นที่จัดเก็บอาหารทะเลและสัตว์ปีกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ จะได้รับผลดีจากต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงหลังจากปรับโครงสร้างแหล่งเงินกู้ รวมถึงมีแผนจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการรับรู้กำไรเพิ่มเติม
-032
ขณะที่รายได้รวมปี 2568 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% จากปีก่อนอยู่ที่กว่า 25,000 – 26,000 ล้าน เนื่องจากฐานรายได้ของธุรกิจมีขนาดใหญ่ โดยคาดว่าจะสามารถรักษาอัตราเติบโตของกำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี