วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,889 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,405 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 14,463 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,860 ล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการสินเชื่อที่มั่นคงในกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และศักยภาพในการบริหารพอร์ตสินเชื่อควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก ทำให้สามารถควบคุมอัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับเหมาะสม ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ภายใต้โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบและรัดกุม
“ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้หลักยังมาจากกลุ่มสินเชื่อมีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนซึ่งเป็นฐานธุรกิจสำคัญของกลุ่มบริษัท พร้อมทั้งขยายบริการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรายได้และรักษาคุณภาพพอร์ตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากฐานลูกค้าสินเชื่อมีหลักประกัน และลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” โดยบริษัทรวบรวมกรมธรรม์ประกันภัยที่หลากหลาย สามารถคำนวณเบี้ยประกันให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่นำเสนอแบบเฉพาะเจาะจง สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม อีกทั้งยังพัฒนาแอปพลิเคชันให้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อประกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจประกันภัยเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง” นางสาวธิดา กล่าว
สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ไตรมาสที่ 4 ปี 2568 บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญทั้งในด้านคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ ผ่านกระบวนการคัดกรองลูกค้าและติดตามหนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาเครื่องมือด้านข้อมูลและระบบติดตามลูกหนี้ ในด้านการปรับพอร์ตสินเชื่อสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง โดยบริษัทฯ เดินหน้าปรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและผลตอบแทนของแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยเน้นสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทน (Yield) สูง เพื่อรักษาเสถียรภาพของกำไรและรองรับต้นทุนทางธุรกิจที่อาจผันผวน ขณะเดียวกันบริษัทฯ อยู่ระหว่าง ปรับโครงสร้างเครือข่ายสาขา โดยขยายสาขาในพื้นที่ศักยภาพสูง และปรับลดขนาดสาขาที่มีประสิทธิภาพต่ำ พร้อมต่อยอดกลยุทธ์ “สาขาออนไลน์” เพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล สำหรับด้าน Digital Transformation ในโครงการ e-KYC และ Mobile Lending Platform มีความคืบหน้าเตรียมเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 4/2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ลดระยะเวลาอนุมัติสินเชื่อ และยกระดับการบริหารข้อมูลลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อ การปฏิบัติตามกฎระเบียบและการคุ้มครองลูกหนี้ โดยติดตามความเคลื่อนไหวของเกณฑ์กำกับใหม่จากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวทางกำกับธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2569 เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านระบบงาน การรายงาน และการบริหารความเสี่ยง เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านการออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 3/2568 มูลค่า 3,150 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุนทั้งรายใหญ่และสถาบัน เงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปชำระคืนหุ้นกู้เดิมและขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ ตอกย้ำฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจในระยะยาว
SAWAD มุ่งดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความโปร่งใส การบริหารจัดการอย่างรอบคอบ และมีธรรมาภิบาลทางการเงินที่เข้มแข็ง ภายใต้แนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) และเดินหน้ากลยุทธ์ “เติบโตอย่างมีคุณภาพ” เพื่อเคียงข้างและสร้างโอกาสทางการเงินอย่างทั่วถึงและยั่งยืนให้กับคนไทย” นางสาวธิดา กล่าวปิดท้าย
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี