กสทช. เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี งดลงทะเบียนซิมผ่านลูกตู้จำหน่ายซิมนอกศูนย์บริการ

กสทช. เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี งดลงทะเบียนซิมผ่านลูกตู้จำหน่ายซิมนอกศูนย์บริการ

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 09.41 น.

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. ได้จัดให้มีการประชุม  โดย กสทช. เห็นชอบให้กำหนดมาตรการเพิ่มเติม สำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่งดการลงทะเบียนเปิดใช้งานซิมการ์ดรวมถึง eSIM นอกศูนย์บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่จุดลงทะเบียนนอกศูนย์บริการจะมีการใช้อุปกรณ์ Smart Card Reader หรือรองรับการพิสูจน์ยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงจะสามารถให้ดำเนินการลงทะเบียนซิมการ์ดได้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะต้องจัดหาอุปกรณ์ Smart Card Reader ให้กับจุดจำหน่ายซิม (ลูกตู้) ที่อยู่นอกศูนย์บริการทั้งหมดภายใน 30 วัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการบริการสาธารณะ และประเภทกิจการบริการชุมชน ตามประกาศเชิญชวนขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการบริการสาธารณะและประเภทกิจการบริการชุมชน โดย กสทช. อนุมัติคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการบริการสาธารณะ และประเภทกิจการบริการชุมชน หลังจากใบอนุญาตเดิมของสถานีวิทยุต่าง ๆ จะทยอยสิ้นสุดภายในปี พ.ศ. 2569 และเพื่อให้การออกอากาศของสถานีวิทยุดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับแผนบริหารคลื่นความถี่ฉบับใหม่ จึงต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาต โดยการออกใบอนุญาตในครั้งนี้ แบ่งเป็น กิจการบริการสาธารณะ อนุญาต 485 คลื่น ประเภทกิจการบริการชุมชุม อนุญาต 114 คลื่น ครอบคลุมทั้งกิจการบริการสาธารณะ เช่น สถานีด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และสุขภาพ กิจการบริการชุมชน เช่น สถานีที่มุ่งส่งเสริมการสื่อสารเพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ และกิจการบริการธุรกิจ ที่ดำเนินการภายใต้กรอบของ กสทช. โดยเหลือคลื่นทั้งหมดที่จะมีการนำมาจัดสรรใหม่ 239 คลื่น


นอกจากนี้สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตอย่างรอบด้าน โดยจะตรวจสอบการรบกวนคลื่น ความแรงของสัญญาณ และมาตรฐานเครื่องส่ง รวมถึงการตรวจสอบด้านเนื้อหาและคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาต นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดติดตั้งสถานีจริง

เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และป้องกันการรบกวนระหว่างคลื่นสัญญาณ หากพบว่ามีการติดตั้งสถานีที่ ไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาต ได้แก่ ห้ามเปลี่ยนแปลงจุดส่งสัญญาณหรือกำลังส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามโอนสิทธิ์ การใช้คลื่นความถี่ให้ผู้อื่น และต้องเริ่มออกอากาศในเวลาที่กำหนด

นอกจากนี้ยังได้ สรุปผลการประมูลคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียงประภทกิจการทางธุรกิจ ระดับท้องถิ่น โดย กสทช. ได้รับทราบผลการประมูลคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการทางธุรกิจ ระดับท้องถิ่น ในปี 2568 การประมูลคลื่นความถี่ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,993 คลื่นความถี่ มีผู้มีสิทธิเข้าร่วมการประมูล รวมทั้งสิ้น 2,237 นิติบุคคล มีผู้เสนอราคาสุดท้ายและรับรองราคา รวมทั้งสิ้น 1,895 คลื่นความถี่ คลื่นความถี่ที่เหลือจากการประมูลครั้งนี้ มีจำนวน 98 คลื่นความถี่ โดยมีมูลค่าการประมูลรวมทั้งสิ้น 65,030,000 บาท (หกสิบห้าล้านสามหมื่นบาทถ้วน) ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

โดยมีรายชื่อคลื่นความถี่ที่มีการเสนอราคาสุดท้ายสูงสุดในครั้งนี้ 5 ลำดับ ได้แก่

1.) คลื่นความถี่ 94.50 MHz อำเภอเมือง จังหวัด เชียงใหม่ ราคาประมูล 1,400,000 บาท

2.) คลื่นความถี่ 96.25 MHz อำเภอบางละมุง จังหวัด ชลบุรี ราคาประมูล 775,000 บาท

3.) คลื่นความถี่ 95.25 MHz อำเภอเมือง จังหวัด สมุทรสาคร ราคาประมูล 720,000 บาท

4.) คลื่นความถี่ 107.50 MHz เขตคลองสามวา จังหวัด กรุงเทพมหานคร ราคาประมูล 691,000 บาท

5.) คลื่นความถี่ 88.00 MHz อำเภอเวียงเก่า จังหวัด ขอนแก่น ราคาประมูล 559,000 บาท

โดยในการประมูลครั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการทางธุรกิจ ระดับท้องถิ่น ในปี 2568 และสำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศเชิญชวนให้ผู้ประสงค์ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการทางธุรกิจ ระดับท้องถิ่น จำนวน 2,507 คลื่นความถี่ ซึ่งมีผู้มีสิทธิเข้าร่วมประมูลจำนวน 2,237 นิติบุคคล โดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดราคาเริ่มต้นเท่ากันทุกคลื่นที่ 25,000 บาท และผู้เข้าร่วมการประมูลจะต้องเพิ่มราคาอย่างน้อย 1 ครั้ง ของการประมูล ในราคาครั้งละ 1,000 บาท โดยมีระยะเวลาในการประมูล รอบละ 60 นาที

การประมูลในครั้งนี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 – 14 พ.ย. 2568 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูล ให้สามารถเข้าถึงได้จากทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 10 รอบ ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ดังนี้

1.) วันที่ 12 พ.ย. 2568 สำหรับการประมูลในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้

2.) วันที่ 13 พ.ย. 2568 สำหรับการประมูลในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ

3.) วันที่ 14 พ.ย. 2568 สำหรับการประมูลในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประมูลในครั้งนี้

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top