วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
อี-คอมเมิร์ซไทยโตสุดขีด! เร่งลงทุนโลจิสติกส์-e-Payment รองรับความเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2568 โดยมูลค่าซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์พุ่งทะลุ 8 แสนล้านบาท ซึ่งตอกย้ำถึงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยมีแนวคิด ‘เศรษฐกิจแห่งความใจร้อน’ (Impatience Economy) เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก
.jpg)
นายอุดมธิปก ไพรเกษตร อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (THECA) เปิดเผยว่า ปัจจุบันความนิยมในการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ของคนไทยสูงขึ้นมาก จนทำให้ตัวเลขผู้ซื้อที่มีมากกว่า 16 ล้านคน และสินค้ามากกว่า 300 ล้านรายการ เป็นตัวเลขที่มีความเป็นไปได้สูง
แม้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะเคยคาดการณ์มูลค่าตลาด B2C e-Commerce ปี 2568 ไว้ที่ 7.7 แสนล้านบาท แต่ผู้คนในแวดวงอี-คอมเมิร์ซคาดการณ์ตัวเลขจริงไว้ที่ประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ. 2573
จากการประเมินพฤติกรรมการซื้อที่มักจะกระจุกตัวในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี (ต.ค.-ธ.ค.) ประมาณ 25-30% ทำให้สามารถประเมินมูลค่าซื้อ-ขายในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค. 68) อยู่ที่ประมาณ 749,000 - 802,500 ล้านบาท โดยผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 67% ได้รับแรงจูงใจจากการซื้อสินค้าผ่านเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย สะท้อนให้เห็นว่าการซื้อ-ขายย้ายไปอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยมีความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญ
.jpg)
ซึ่งแพลตฟอร์ม Marketplace อย่าง Shopee และ Lazada ยังคงเป็นผู้ครองตลาดด้วยส่วนแบ่งรวมกันที่ 50% แต่ทั้งสองรายถูกท้าทายอย่างหนักจากการแข่งขันด้านราคาและความเร็วในการจัดส่งสินค้า การอยู่รอดจึงขึ้นอยู่กับการปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค
นายอุดมธิปก กล่าวว่า อี-คอมเมิร์ซ ได้เข้ามาเปลี่ยนประเทศไทยอย่างชัดเจน 4 ด้าน ดังนี้ 1.เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค คนไทยทุกกลุ่ม รวมถึงผู้สูงวัย และประชาชนในพื้นที่ห่างไกล คุ้นชินกับการทำธุรกรรมออนไลน์ และการตัดสินใจซื้อได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว 2.พลิกโฉมธุรกิจและการแข่งขัน ปลดล็อก SMEs ให้เข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ได้ ทลายข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ ต้นทุนเปิดร้านกายภาพลดลง พร้อมบริการจัดส่งภายในวันเดียว (Same Day Delivery) 3.เปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ กระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีในธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Warehouse Management) ทั่วประเทศ เพื่อรองรับความรวดเร็ว และ 4.เปลี่ยนระบบการชำระเงิน จากการโอนจ่ายหน้าร้าน (Off line) มาเป็นการชำระในระบบดิจิทัล (e-Payment) เช่น Mobile Banking, e-Wallet, และ QR Code อย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดสังคมไร้เงินสดเร็วขึ้น
////-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี