บางกอกแอร์เวย์ส ร่วมลงนาม MOU หนุน'การบินยั่งยืน' สู่เป้าหมาย Net Zero 2050

บางกอกแอร์เวย์ส ร่วมลงนาม MOU หนุน'การบินยั่งยืน' สู่เป้าหมาย Net Zero 2050

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.56 น.

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฯ ได้เข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF) โดยมี พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และ นายศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการ ฯ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ 8 สายการบินของประเทศไทย ร่วมลงนาม ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยสู่ “การบินยั่งยืน” และการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emissions 2050) ภายในปี 2593 ตามแนวทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และภายใต้กรอบมาตรการลดและชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของภาคการบินระหว่างประเทศ (Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation – CORSIA)  ที่ประเทศไทยเข้าร่วมโครงการนำร่องตั้งแต่ปี 2564


นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยพันธกิจสำคัญของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สที่มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการบิน การเข้าร่วมลงนามใน MOU ครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสนับสนุนการใช้ SAF ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของไทยให้ก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในที่สุดจะส่งผลเชิงบวกกลับไปยังผู้โดยสารทุกท่าน ทั้งในรูปแบบของประสบการณ์การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐานการบริการที่ยั่งยืน และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและดูแลโลกของเราอย่างภาคภูมิใจ

ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย ผ่านการทำงานร่วมกันของผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นสำคัญของอุตสาหกรรมการบินไทย ในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel Supply Chain) ของประเทศในระยะยาว

ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT ยังให้ความตระหนักถึงต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงจากการใช้ SAF ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการดำเนินงานของสายการบิน ดังนั้น เพื่อลดผลกระทบทางการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม จึงมีการพิจารณาแยกต้นทุนรายการค่าธรรมเนียมคาร์บอน (Carbon Surcharge) สำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศตามความสมัครใจของสายการบิน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2569 เพื่อสะท้อนต้นทุนการลดและชดเชยการปล่อยคาร์บอนในภาคการบินของประเทศ โดย CAAT จะทำหน้าที่กำกับให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การบินยั่งยืนของประเทศอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top