วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ตอกย้ำความสำเร็จก้าวสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-8 ลำแรก ตามแผนยุทธศาสตร์การขยายฝูงบินรวม 50 ลำ ภายในปี 2571 โดยเครื่องบินรุ่นใหม่จะช่วยส่งเสริมแผนการพัฒนาระยะยาวของสายการบินฯ ยกระดับศักยภาพการปฏิบัติการ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศด้านการบินและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในองค์รวม
ทั้งนี้โบอิ้ง 737-8 จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับแผนการขยายเครือข่ายการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ด้วยระยะบินสูงสุด 6,570 กิโลเมตร ช่วยให้สายการบินสามารถให้บริการเส้นทางที่ไกลขึ้น และเพิ่มการเชื่อมต่อสู่ภูมิภาคเอเชียได้กว้างกว่าเดิม รวมถึงรองรับการเปิดเส้นทางใหม่สู่โตเกียวและโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพสูง และเป็นโอกาสสำคัญต่อการเติบโตเชิงกลยุทธ์ของสายการบิน โดยเส้นทางดังกล่าวมีแผนจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2569
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าวว่า การรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-8 ลำแรก ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยกระดับศักยภาพของเวียตเจ็ทไทยแลนด์สู่การเป็นสายการบินต้นแบบโลว์คอสต์ชั้นนำในภูมิภาค โดยเครื่องบินรุ่นดังกล่าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ ขยายระยะการบิน และลดการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญ การรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-8 นอกจากจะช่วยเสริมแกร่งฝูงบิน ยังเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อความมั่นคงทางธุรกิจของสายการบินฯ ในระยะยาว เวียตเจ็ทไทยแลนด์ยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางแก่ผู้โดยสาร โดยวางแผนเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงเส้นทางใหม่ไปยัง โตเกียว โอซาก้า และคัมรานห์ ซึ่งล้วนเป็นตลาดศักยภาพสูงของไทยและอาเซียน พร้อมยกระดับบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค การยกระดับฝูงบินในครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ผ่านการผสานเทคโนโลยีวิศวกรรมการบินล้ำสมัยและนวัตกรรมการบินที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากการยกระดับด้านการปฏิบัติการแล้ว เครื่องบินโบอิ้ง 737-8 ยังช่วยเสริมประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารแบบ Boeing Sky Interior ที่มาพร้อมระบบไฟส่องสว่างที่ปรับปรุงใหม่ ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะขนาดใหญ่ขึ้น และสภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสารที่เงียบและโปร่งสบายมากกว่าเดิม การอัปเกรดเหล่านี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการและผสานเทคโนโลยีการบินสมัยใหม่เข้าสู่การดำเนินงานในทุกมิติ ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องบินยังมาพร้อมแอโรไดนามิกส์ล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์ LEAP-1B และความสามารถในการรองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ราว 15-20% และลดระดับเสียงรบกวนได้มากถึง 50%
ในการรองรับฝูงบินโบอิ้ง 737-8 จำนวน 50 ลำ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้เตรียมขยายทีมบุคลากร ทั้งฝ่ายปฏิบัติการบิน วิศวกรรม พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริการภาคพื้น ฝ่ายบริการลูกค้า รวมถึงฝ่ายสนับสนุนหลังบ้าน โดยคาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 5,000 อัตรา สะท้อนเจตนารมณ์ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมการบินของไทยและสนับสนุนการจ้างงานในระดับประเทศ
ทั้งนี้เวียตเจ็ทไทยแลนด์จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ด้วยโบอิ้ง 737-8 ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ก่อนเปิดบริการระหว่างประเทศในเส้นทาง กรุงเทพฯ-คัมรานห์ ในเดือนธันวาคม 2568 โดยการทยอยรับมอบเครื่องบิน 50 ลำ ภายในปี 2571 จะช่วยรองรับความต้องการของนักเดินทางที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความถี่เที่ยวบิน พร้อมขยายเครือข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี